ปรับตัวขึ้นต่อ

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้  :  ปรับตัวขึ้นต่อ

ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อ จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับขึ้น และข่าวรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ โดยเงินกู้งวดใหม่มีมูลค่า 10,300 ล้านยูโร หรือ 11,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะจัดสรรให้กับกรีซล็อตแรก 7,500 ล้านยูโร ช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2559

แนวรับ/แนวต้าน : 1390/1402 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

กลยุทธ์ : หาจังหวะซื้อเมื่อดัชนีย่อลง เก็บสะสมหุ้นที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว และคาดจะรายงานงบออกมาดีในปีนี้

หุ้นแนะนำ

THAI (18.5) : ได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาเรลล์ นอกจากนี้ THAI จะมีการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวันนี้ (26 พ.ค. 59) ซึ่งคาดว่ามีมีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมดังกล่าว

ERW (5.3) : ผลประกอบการ 2Q59 มีลุ้นเป็นบวกครั้งแรกในรอบหลายปี เนื่องจากได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งปีนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ทั้งนี้ปัจุบันราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มากหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มโรงแรม

KCE (91) : ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนเนื่องจากส่งออกกว่า 95% และยังมีลุ้นเข้าเทรดในกลุ่ม SET50 กลางปีนี้ อีกทั้งคาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 3Q59 เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)


ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

- ส่งออกเดือน เม.ย.ร่วง ติดลบ 8% จาก ยานยนต์-อุปกรณ์ไอทีลดลง ส่งผล 4 เดือนแรก กลับมาติดลบ 1.24% พาณิชย์ยันคงเป้า 5% ด้าน "สมคิด" สั่งจับตาสถานการณ์-ห้ามประมาท ส่วนภาคท่องเที่ยว-ยอดขอบีโอไอขยายตัวต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้น ประเมินส่งออกทั้งปีเป็นบวกยาก

- นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยประจำเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ดัชนีอยู่ที่ระดับ 85.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 86.7 เมื่อเดือนมี.ค. โดยเป็นค่าดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย.2558 เหตุจากเดือน เม.ย.มีวันทำงานน้อยมาก ทำให้กำลังผลิตลดลง และผู้ประกอบการยังกังวลค่าเงินบาทที่จะกระทบต่อการส่งออก รวมทั้งภาวะภัยแล้วที่จะกระทบกำลังซื้อและวัตถุดิบบางส่วนขาดแคลน และมีต้นทุนสูงขึ้น

+ ผู้ประกอบการอาหารไทย ตบเท้าร่วมงาน ไทยเฟคฯ งานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติใหญ่ที่สุดในไทย-เอเชีย หวังโชว์ นวัตกรรมสินค้าอาหาร ผนึกคู่ค้าต่างประเทศ ปั๊มยอดขายโต "สมคิด" แจงรัฐเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มอาหารไทย ร่วม 35 องค์กรชั้นนำค้นคว้าพัฒนาอาหาร ดันอุตสาหกรรมอาหารไทย ขึ้นเบอร์ 1 โลก

+ "สัตยา นาเดลลา" ซีอีโอไมโครซอฟท์ทัวร์อาเซียน เยือนไทยครั้งแรก เปิดงาน "ไทยแลนด์ ดิเวลลอปเปอร์ เดย์" ประกาศทุ่ม "พันล้านดอลล์" หนุนการศึกษาโลก เจียด 2 ล้านดอลล์ มอบซอฟต์แวร์สู่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พร้อมฝึกอบรมเทคโนฯ ฟรี ยกเป็นตลาดมีศักยภาพเติบโต ยาหอม "ไทย" ผ่านจุดการพัฒนาเศรษฐกิจมาอย่างสวยงาม แนะลงทุนด้านการศึกษาเชื่อมโอกาสคนรุ่นใหม่เข้าถึงเทคโนโลยี และยังยกไทย เป็นตลาด 'ศักยภาพเติบโตสูง'

ปัจจัยต่างประเทศ

+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ปิดที่ 17,851.51 จุด พุ่งขึ้น 145.46 จุด หรือ +0.82%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ

+ ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 43.59 จุด หรือ 0.70% แตะที่ 6,262.85 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ขานรับรายงานที่ว่า รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ

+ ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 258.59 จุด หรือ 1.57% แตะที่ 16,757.35 จุด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า ญี่ปุ่นจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการขายออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดไว้ในปีหน้า

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด