'กรมบังคับคดี' ขายทอดตลาดไตรมาส2 ได้กว่า5.1หมื่นล้าน

'กรมบังคับคดี' ขายทอดตลาดไตรมาส2 ได้กว่า5.1หมื่นล้าน

กรมบังคับคดีแถลงผลขายทอดตลาดไตรมาส2 เคาะขาย20,000ล้าน รวม6เดือนขายทรัพย์ได้กว่า 51,000 ล้านบาท เร่งนำเงินกลับเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่ศูนย์บังคับคดีล้มละลายส่วนหน้า น.ส.รื่นดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงผลการขายทอดตลาดทรัพย์ในไตรมาสที่ 2 (ม.ค.-มี.ค.) ว่า มาตรการเร่งรัดผลักดันทรัพย์ออกจากระบบ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย รวมถึงการเปิดขายทอดตลาดในวันเสาร์-อาทิตย์ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ขายทอดตลาดทรัพย์สินได้กว่า20,098 ล้านบาท รวม 6 เดือน หรือ 2 ไตรมาส ขายทรัพย์สินได้กว่า 51,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าผลการผลักดันทรัพย์สินเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี 3.98 %โดยวางเป้าหมายขายทอดตลาดในปี 59 ให้ได้ 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อนำเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศซึง ตัวเลข ณ วันที่ 4 เม.ย. มีทรัพย์สินรอการขายทั้งสิ้น 194,000 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 55 % ที่ดินว่างเปล่า 33 % และอาคารชุด 10.9%ซึ่งกรมบังคับคดีจะเร่งคัดแยกทรัพย์ประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกเป็นกลุ่มโรงงาน โรงแรม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเลือกซื้อทรัพย์

นอกจากนี้จะเร่งผลักดันกลุ่มทรัพย์สินที่เป็นสำนวนค้างเก่านานกว่า 10 ปี เนื่องจากหลายรายการมีการขายทอดตลาดต่อเนื่อง 8 ปี รวมการขายมากกว่า 60 ครั้ง แต่ไม่มีผู้สนใจประมูลซื้อทรัพย์ ฝ่ายโจทก์ที่เป็นเจ้าของทรัพย์ก็ไม่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมดำเนินการ ดังนั้นอาจจำเป็นต้องจำหน่ายสำนวนดังกล่าวออกจากระบบ รวมถึงทรัพย์นายประกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาล วงเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ใช้มาตรการพิเศษเข้ามาดำเนินการ เนื่องจากนายประกันหลายรายปล่อยให้ที่ดินถูกยึด แต่ยังนำที่ดินซึ่งถูกยึดรอการขายไปปล่อยเช่าและเก็บผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดีไม่ว่าจะเป็นหนี้ครัวเรือน หนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้สินเกษตรกร และหนี้ในการเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งกรมบังคับคดีจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีเรื่องเข้าสู่การไกล่เกลี่ยทั้งสิ้น 5,792 เรื่อง ทุนทรัพย์ 637 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 4,748 เรื่อง ทุนทรัพย์ 530 ล้านบาท ทำให้สามารถลดปริมาณคดีที่จะเข้าสู่การยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาดลงได้จำนวนมาก ส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ประสานมายังกรมบังคับคดีให้เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยหนี้ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หนี้บัตรเครดิต และหนี้ครัวเรือน จำนวน 12,931 ราย ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ค.นี้ในพื้นที่ 14 จังหวัด อาทิ กรุงเทพ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ เป็นต้น

สำหรับการให้ความร่วมมือในการบังคับโทษปรับในคดียาเสพติด ในไตรมาสที่ 2 สามารถส่งเงินไปยังศาลได้ กว่า 7.5 ล้านบาท โดยมีคดีเข้าสู่การบังคับคดี 479 เรื่อง ราคาประเมินกว่า 21 ล้านบาท