ลูกสาว ‘พอล วอล์คเกอร์’ ได้เงินชดเชย 10.1 ล้านดอลล์

หลายคนคงจำโศกนาฎกรรมของ พอล วอล์คเกอร์ พระเอกหนังแฟรนไชส์รถแข่งสุดฮิตเรื่องฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ได้ดีว่าเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ขณะนั่งไปในรถพอร์ช คาร์เรรา จีที ที่เพื่อนของเขาชื่อ “โรเจอร์ โรดาส” ขับด้วยความเร็ว 80-93 ไมล์ต่อชั่วโมง แล้วชนเข้ากับต้นไม้จนไฟลุกท่วม

ล่าสุด มีโด เรน วอล์คเกอร์ ลูกสาววัย 17 ปี ของพอลได้รับค่าชดเชยจากการเสียชีวิตของพ่อจากสำนักดูแลผลประโยชน์ของโรดาสแล้วที่ 10.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 340 ล้านบาท ซึ่งทนายของมีโด ได้ออกแถลงการณ์พูดถึงเรื่องนี้ว่า เงินจำนวนนี้ครอบคลุมแค่เศษเสี้ยวเดียวของสิ่งที่พ่อของเธอจะหาได้จากการเป็นดาราหนังชื่อดังระดับโลก ที่ชีวิตต้องมาจบลงอย่างน่าเศร้าเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายมีโดบอกว่า โรเจอร์ โรดาส มีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของพอล วอล์คเกอร์แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และอีกส่วนหนึ่งนั้นน่าจะหมายถึงบริษัทพอร์ช ผู้ผลิตรถคันที่นักแสดงวัย 40 ปีนั่งไปในวันเสียชีวิตนั่นเอง เพราะก่อนหน้านี้ มีโด ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพอล ได้ยื่นฟ้องค่ายรถสัญชาติเยอรมันแห่งนี้มาแล้ว โดยกล่าวหาว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยน้อยเกินไป ซึ่งถ้ามีมากกว่านี้ก็อาจจะช่วยเซฟให้พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ แต่ทางพอร์ชได้ยืนยันว่าทางรถไม่มีอะไรผิดปรกติ และพอลต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของเขาเอง

ภายหลังจากที่สอบสวนอยู่นาน 4 เดือน ศาลลอสแองเจลีสก็ตัดสินว่าอุบัติเหตุที่ทำให้พอลเสียชีวิตมาจากการขับรถเร็วเกินกว่าเหตุ ไม่ได้มาจากความผิดพลาดของเครื่องยนต์ และได้ยกฟ้องคำกล่าวหาของมีโด้ไป

แต่ล่าสุด ทนายของมีโดยืนยันว่าเธอจะเดินหน้าฟ้องร้องพอร์ชต่อไป เพราะเธออยากจะให้ทางบริษัทรับผิดชอบที่ผลิตรถที่มีข้อบกพร่องออกมาจนเป็นสาเหตุให้พอล วอล์คเกอร์ ต้องเสียชีวิต

เรื่องนี้คงจะกลายเป็นหนังเรื่องยาวแน่นอน ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่ามีโดจะสู้กับพอร์ชจนชนะหรือไม่ เพื่อชดเชยความอ้างว้างที่ต้องสูญเสียผู้เป็นพ่อไปตลอดกาล