กปปส.ร้องนายกฯ ไม่มีเจตนาล้มเลือกตั้ง แค่ให้ปฏิรูปก่อน

กปปส.ร้องนายกฯ ไม่มีเจตนาล้มเลือกตั้ง แค่ให้ปฏิรูปก่อน

"เอกนัฏ"ร้อง"ประยุทธ์" หลังกกต.เรียกค่าเสียหายขวางเลือกตั้ง ย้ำไม่มีเจตนาล้มเลือกตั้ง เพียงแต่ขอให้มีการปฏิรูปก่อน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนฯ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติยื่นฟ้องร้องแกนนำกปปส. และมวลมหาประชาชนกว่า 200 คน กรณีที่ขัดขวางการเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57  

นายเอกนัฏ กล่าวว่า การกล่าวหาของ กกต. ไม่เป็นธรรมกับแกนนำกปปส. โดยขอยืนยันว่า เราไม่มีเจตนาไปขัดขวางการเลือกตั้ง แต่เราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลในยุคมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกกต.ในยุคนั้น ยังคงเดินหน้าให้มีการเลือกตั้ง ในขณะที่หลายฝ่าย รวมถึงสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ทักท้วงรัฐบาล และกกต.ไปแล้วว่า หากยังมีการจัดให้มีการเลือกตั้ง จะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์ และสุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ  

"ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ถือเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยตรงของกกต. และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้นถ้าจะมีการเรียกค่าเสียหาย คนที่จะต้องเป็นจำเลยนั้นคือกกต. ยุคนั้น และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผมและนายถาวร ในฐานะตัวแทนของกปปส.และมวลมหาประชาชน จึงได้มายื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาค่าเสียหาย จากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความดันทุรังของกกต. และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์" นายเอกณัฏ กล่าว  

ขณะที่นายถาวร กล่าวว่า การกระทำที่เป็นผลโดยตรงที่ทำให้เกิดความเสียหายกับการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องใช้พระราชบัญญัติที่ต้องพิสูจน์ได้ว่าการละเมิดนั้นเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ เมื่อเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่โดยตรง ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลปัจจุบันจะต้องหาตัวผู้รับผิดชอบ ฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายกับคนที่กระทำผิดโดยตรงคือกกต.และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ถ้าปล่อยให้กกต.ฟ้องร้องกับกปปส.และมวลมหาประชาชนโดยตรง จะทำให้ฟ้องผิดตัว และความเสียหายก็จะเกิดขึ้นกับรัฐ หลังจากนั้นคดีนี้ก็จะขาดอายุความ ซึ่งถ้านายกฯพิจารณาหนังสือฉบับนี้แล้วเห็นด้วยก็สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย