มท.ดึงเงินค้างท่ออปท. ใช้กระตุ้นศก.

มท.ดึงเงินค้างท่ออปท. ใช้กระตุ้นศก.

มหาดไทยคลอดแนวทางดึงเงินค้างท่ออปท. ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นว่าปัจจุบัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีเงินสะสมที่ได้สำรองเป็นรายจ่ายที่จำเป็นเอาไว้แล้ว เพียงพอที่จะนำมาใช้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนตามอำนาจหน้าที่ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินการคลังในระยะยาว ให้การใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปอย่างเหมาะสม ภายใต้กรอบวินัยทางการเงินการคลังที่ดี สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจสภาพสังคมในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญการสนับสนุนการดำเนินงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการเกี่ยวกับการปรับปรุงหรือจัดให้มีแหล่งน้ำด้านการเกษตร แหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น ประปาหมู่บ้าน บ่อบาดาล หรือโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล เช่น การปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว จัดให้มีไฟฟ้าและแสงสว่าง โครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ โครงการหรือกิจกรรมตามอำนาจหน้าที่ที่เห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นจึงอาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 (ข้อ 4 ) กำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ 3 ข้อดังนี้ 

1.ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมตามระเบียบดังกล่าว โดยตระหนักถึงเจตนารมณ์ของการกำหนดให้มีเงินสะสมนั้น ก็เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฐานะการเงินการคลังที่มั่นคง พร้อมที่จะรับภาระในการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ หรือ นำไปใช้เพื่อการจัดบริการสาธารณะแก่ประชาชนให้ทั่วถึงและมีคุณภาพ ดังนั้นจึงเห็นควรพิจารณาใช้จ่ายเงินสะสมอย่างระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารงานตามอำนาจหน้าที่ 

2.หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติในปีงบประมาณ 2559 ดังนี้

-2.1การขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมให้ตรวจสอบยอดเงินสะสมที่นำไปใช้ได้ ณ ปัจจุบัน โดยหักเงินสะสม ที่ส่งฝากเงินทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล (ก.ส.ท.) หรือเงินทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.ส.อ.) แล้วนำไปหักรายการเงินสะสมที่มีภาระผูกพันแล้วแต่ยังไม่ได้ดำเนินการ หรืออยู่ระหว่างดำเนินการ และยังไม่ได้เบิกจ่ายเพื่อพิสูจน์ยอดเงินสะสมคงเหลือณปัจจุบันที่สามารถนำไปใช้ได้

-2.2เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องมียอดเงินสะสมคงเหลือเพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายประจำ และกรณีฉุกเฉินที่มีสาธารณภัยเกิดขึ้น ดังนั้น ก่อนจะนำเงินสะสมไปใช้ให้สำรองเงินสะสมไว้เพื่อใช้จ่ายในกรณี สำรองเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร สำรองจ่ายกรณีที่ยังไม่ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป และสำรองจ่ายกรณีสาธารณภัย 

3. ลักษณะและประเภทโครงการที่สามารถนำเงินสะสมไปใช้จ่ายได้ จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์และตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยนำข้อมูลปัญหาและความต้องการพื้นฐานจาก“แผนพัฒนาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดทำโครงการ”ทั้งนี้ ไม่ให้นำเงินสะสมไปใช้จ่ายในโครงการหรือกิจกรรมที่ฟุ่มเฟือย หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชน เช่น การก่อสร้างปรับปรุงอาคารที่ทำการ การจัดหารถส่วนกลางหรือรถประจำตำแหน่ง การจัดหาครุภัณฑ์สำนักงาน การศึกษาดูงาน เป็นต้น โดยให้กระทำได้เฉพาะโครงการหรือกิจการซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ในด้านการบริการชุมชนและสังคม กิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ หรือกิจการที่จัดขึ้นเพื่อบำบัดความเดือดร้อนของประชาชนตาม 

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ในการจัดทำโครงการให้เป็นไปตามศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง โดยพิจารณาจากยอดเงินสะสมที่เหลืออยู่หลังจากได้สำรองไว้สำหรับรายจ่ายที่กำหนด และต้องมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่โครงการหรือกิจการ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ได้ทำไว้แล้ว หรือที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐได้ดำเนินการแล้ว รวมทั้งสามารถดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ2559 สำหรับกรณีโครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะดำเนินการเอง หรือโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อื่นร้องขอให้ดำเนินการ จะต้องเป็นโครงการที่เป็นภาพรวมของจังหวัด มุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นส่วนรวม มีผู้ได้รับประโยชน์ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่า 1 แห่ง ถือเป็นโครงการที่เกินศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ถือปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

เรื่องกำหนดอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และถือปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 104/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า มีความโปร่งใส และอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินและการคลังที่ดี และให้มีการรายงานผลการใช้จ่ายเงินสะสมเมื่อได้มีการอนุมัติแล้วให้กระทรวงมหาดไทยทราบเป็นระยะ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ท้องถิ่นจังหวัด ท้องถิ่นอำเภอ สนับสนุนการทำงาน ของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ และให้ติดตามตรวจสอบการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ