สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 8-12 ก.พ.2559

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 8-12 ก.พ.2559

“เงินบาทกลับมาอ่อนค่า ขณะที่หุ้นไทยปรับร่วงลง จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วงปลายสัปดาห์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือนที่ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งบางส่วนอาจมาจากกลุ่มผู้ค้าทองคำ นอกจากนี้ ยังมีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล โดยเฉพาะเงินเยนที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความอ่อนแอในภาคธนาคารยุโรป และการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ประกอบกับตลาดตีความถ้อยแถลงของประธานเฟดว่า เป็นสัญญาณของการไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากธปท. ระบุว่า จะดูแลเงินบาทระยะสั้นไม่ให้ผันผวน ประกอบกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ต่างลดช่วงบวกลงตามการปรับโพสิชั่นก่อนที่ตลาดการเงินของจีนจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป

- สำหรับในวันศุกร์ (12 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ก.พ.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (15-19 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.40-35.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตารายงานข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 4/2558 ของไทย การกลับมาเปิดทำการอีกครั้งของตลาดการเงินจีน (หลังจากวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน) และข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนม.ค. ของจีน ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟียเดือนก.พ. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน/การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนธ.ค. 


สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- ดัชนี SET ปรับลดลง จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,276.49 จุด ลดลง 2.28% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 21.66% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 33,740.07 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 500.77จุด ลดลง 1.39% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ โดยได้รับอานิสงส์จากเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาบ้าง แต่ดัชนีปรับลดลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ จากความกังวลต่อฐานะธนาคารในยุโรป ท่ามกลางความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกอาจจะเผชิญภาวะถดถอยรอบใหม่ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแรงรอบใหม่ก็เป็นอีกปัจจัยที่เร่งแรงขายในตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (15-19 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 1,265 และ1,245 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การเปิดเผยรายงานจีดีพีประเทศต่างๆ และสถานการณ์ตลาดหุ้นจีน หลังจากปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้ง การเปิดเผยบันทึกการประชุมเฟด