'อนุพงษ์'ปราม'อปท.-กำนัน-ผญบ. ห้ามร่วมเอี่ยวทำชาติเเตกเเยก

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานโครงการประชุม “มอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย” ให้กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัดว่า เรามีเวลาอีก 1 ปีเศษที่จะวางงานให้ประชาชนได้เห็นทำอะไร แต่ถ้าเราบริหารจัดการแบบพรรคพวกคงจะจบแน่ รัฐบาลจึงต้องมีการทำงานที่เป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว 20 ปีให้สอดคล้องกับงบประมาณปี 2559 - 2560 โดยเเผนฯต่างๆที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการให้การทำงานที่ได้มอบหมายแบ่งงานรองนายกฯ 6 คน ผ่านมายังทุกกระทรวง ลงมาอยู่ในกลไกของกระทรวงมหาดไทย ตั้งเเต่ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ลงมายังท้องถิ่นและท้องที่คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด 

"ระยะเวลามีไม่นาน ถ้าไม่รีบทำอะไร จะเสียโอกาส เพราะประเทศอื่นๆเจริญก้าวหน้าไปมาก ฉะนั้นต้องเร่งพัฒนาในพื้นที่ สิ่งที่รัฐบาลสั่งลงมาขอให้เร่งทำมี 2 สิ่ง 1.ใช้ความสามารถที่มีอยู่บนกรอบยุทธศาสตร์ 2.ความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณ” รมว.มหาดไทย กล่าวและว่า ถ้าถามตนว่า ควรจะยุบ อปท. กับกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ บอกเลยว่า ยุบไม่ได้ เพราะทั่วโลกสุดท้ายต้องมาอยู่ที่ท้องที่ และท้องถิ่น ที่รู้ปัญหาดีที่สุด ยืนยันว่า งบฯต้องเพิ่มให้ท้องถิ่นเรื่อยๆ แต่ต้องทำให้สมศักดิ์ศรี ยึดโยงอยู่ในบทบาทหน้าที่ มีความบริสุทธิ์ใจ ที่สำคัญต้องน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" รมว.มหาดไทย กล่าว 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการสร้างปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ตนไม่ได้จะว่า ใครจะชอบพรรคใด สีใด ไม่ได้รังเกียจ เพราะบังคับกันไม่ได้ แต่อยากบอกว่า จะชอบกลุ่มใด ถ้าเขาได้เข้ามาบริหารประเทศ ต้องมองว่า ทำถูกต้องหรือไม่ นักปกครองจะนำคนในชาติมาขัดเเย้งมีความรุนเเรงไม่ได้ เพราะจะเกิดความบาดหมางไปตลอด อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขประชาธิปไตย หรือตัวบุคคล แต่ถ้ามาเทียบกับความขัดเเย้งของประชาชน ขอเถอะว่า อย่าทำ ไม่ว่า จะรัฐบาลไหนก็ตาม ไม่ใช่ว่า มาทำเเค่รัฐบาลนี้ เชื่อว่าประชาชนจะออกไปขัดเเย้งเองไม่ได้หรอก ถ้าไม่ถูกเกณฑ์ไปชุมนุมถืออาวุธ หรือเป็นการ์ด พวกท่านต้องไม่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เด็ดขาด ยังไงก็ตามคนในชาติจะแบ่งไม่ได้ ขณะที่ประเทศอื่นๆยังก้าวไม่พ้นเรื่องของเชื้อชาติ รบกันมาไม่เลิกเป็นเวลาหลายปี แต่ประเทศเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ กลับมาขัดเเย้งกันเอง เอาเป็นว่าใครก็ตามที่อยู่ในตำเเหน่งที่คนเคยรักกันมา แต่กลับทำให้มาเเตกเเยกกัน คนนั้นถือว่า เลวมากๆ ไม่ควรอยู่ในประเทศไทย ยืนยันอีกครั้งว่า ใครจะทำให้คนชาติมาตีกัน ท่านต้องไม่เข้าไปร่วม ทำยังไงก็ได้ให้คนที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในกรอบ ไม่ลุแก่อำนาจ หรือทุจริต ถือว่า เป็นคัมภีร์แห่งการปกครองที่ดีที่สุดเเล้ว คงไม่ต้องเลยไปถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวพูดไปจะเป็นประเด็น  

รมว.มหาดไทย ยังกล่าวถึงปัญหาผู้มีอิทธิพลว่า เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของทหาร ตำรวจ ดำเนินการ แต่ขอผู้บริหารท้องถิ่น อย่าไปเป็นผู้มีอิทธิพลซะเอง เพราะเราอาสา ได้รับเลือกจากประชาชนมาเเล้ว ต้องดูแล อย่าไปตั้งตัวเป็นมิจฉา ชีพ ขณะที่เรื่องของยาเสพติดที่เป็นวาระของชาติ จะปล่อยปะละเลยไม่ได้ ทุกคนจะต้องร่วมมือกับเหล่าข้าราชการประจำ ไม่ว่า จะทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใน 2 เรื่อง คือ ต้องทำให้คนไม่เสพ เพราะมีคนเสพ มีคนใช้ เมื่อมีคนต้องการ และการจับกุม ซึ่งจะเป็นในส่วนของตำรวจ ทหาร ร่วมทั้งฝ่ายปกครองท้องที่ ท้องถิ่น ที่ต้องดำเนินหาทางแก้ไขปราบปราม หากพบเห็นก็ให้ช่วยกันประสานเจ้าหน้าที่ ถ้าหากไม่ช่วยกันดูแล ให้พวกค้ายาเสพติดเหิมเกริม สักวันประเทศของเราก็จะเป็นแบบประเทศหนึ่ง ที่พวกค้ายามีกองกำลังของตนเองที่สามารถสู้กับตำรวจของประเทศนั้นได้ 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนเรื่องยางพารา ที่ราคาตกต่ำลงมาก ทำให้เกษตรกรอยู่ไม่ไหว ถือเป็นความผิดพลาด เราต้องช่วยเเก้ไข ขณะนี้มียาง 300,000 ตันใช้ไม่ได้ ยางใหม่ก็ออกมา 1 เเสนตันที่รัฐบาลจะรับซื้อ คาดว่าจะใช้ได้เต็มที่ประมาณ 14,000 ตัน ต้องขอขอบคุณ อปท. ทุกเเห่งที่ได้ช่วยอุดหนุนเงินสะสมมาช่วยในวิกฤติคร้งนี้ เพื่อนำมาทำลานกีฬา ขณะที่ปัญหาภัยเเล้ง บางโครงการที่ฝ่ายท้องที่หรือส่วนเกี่ยวข้องทำไม่ได้ แล้วไปของบฯจากท้องถิ่น ก็ขอให้ช่วยเขาไป เพราะมีหลายโครงการอาจทำไม่ทัน คาดว่า ในเดือนมีนาคมนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นได้

"ผมอยากฝากว่า ให้ท้องถิ่นสามารถประคองให้เกษตรกรอยู่ได้ โดยปลูกพืชใช้น้ำน้อย ถ้ามันวิกฤติจริงๆต้องยอมรับ และประกาศเขตภัยพิบัติ ส่วนน้ำอุปโภคบริโภคได้มีเข้าเเก้ไขปัญหาน้ำประปาแล้ว โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังไงขอให้ร่วมมือกัน" รมว.มหาดไทย กล่าวและว่า สำหรับประเด็นการก่อการร้าย เเม้ประเทศที่มีระบบการป้องกันที่เข้มเเข็ง ต่างก็เจอการก่อการร้ายมาทั้งหมด เช่น ประเทศฝรั่งเศสในเวลากลางคืนจะมี ทหารติดอาวุธเดินตรวจตราตามท้องถนนสายสำคัญ แต่ก็ยังมีเหตุสูญเสียเกิดขึ้นมาได้ สำหรับประเทศไทยเอง อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องมีส่วนรับผิดชอบมีการเฝ้าระวังเพื่อให้นำไปสู่การข่าวที่ดี ทุกคนทำได้ เพราะรู้จักพื้นที่ดีที่สุด