คลังพอใจแผนลดหนี้เสีย 'เอสเอ็มอีแบงก์'

คลังพอใจแผนลดหนี้เสีย 'เอสเอ็มอีแบงก์'

"อภิศักดิ์" พอใจแผนลดหนี้เอ็นพีแอล "เอสเอ็มอีแบงก์" จากปัจจุบันที่ระดับ 26% ชี้เป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังมอบนโยบายผู้บริหารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ว่า มีความพอใจแผนการลดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากปัจจุบันร้อยละ 26 โดยฝ่ายบริหารตั้งเป้าหมายร้อยละ 4-5 ต่อปี นับว่าพอใจและเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก และต้องการให้เอสเอ็มอีแบงก์เตรียมพร้อมดำเนินนโยบายอี-เพย์เมนท์ของรัฐบาล โดยต้องการให้เอสเอ็มอีแบงก์ฟื้นฟูฐานะองค์กรให้อยู่รอด เพื่อให้เกิดความเข็มแข็ง รวมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการสร้างธุรกิจใหม่ Start Up โดยจะใช้เงินกองทุนของกระทรวงการคลังเข้ามาสนับสนุน

นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า รัฐมนตรีคลังมอบนโยบายให้เอสเอ็มอีแบงก์เน้นทำงานตามพันธกิจขององค์กร ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงพร้อมปรับตัวชี้วัดเคพีไอในการวัดผลงานเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ในกลุ่ม 2 เพื่อเน้นผลงานตามพันธกิจแทนการเน้นหวังผลกำไรให้สอดคล้องกับการทำงานและเป็นกำไรใจให้กับพนักงานมากขึ้น แม้จะไม่ได้กำไรยังได้โบนัสและปรับขึ้นเงินเดือนตามความเหมาะสม

ส่วนกรณีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) หลังจาก ครม.ขยายเวลาดำเนินโครงการออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนั้น เอสเอ็มอีแบงก์จะเร่งรัดปล่อยสินเชื่อให้หมดภายในไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 5,000 ล้านบาท และเหลืออยู่ 10,000 ล้านบาท เมื่อ ครม.ขยายเวลาดำเนินการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)จะสามารถเข้ามาพิจาณาการค้ำประกันสินเชื่อได้ เพราะขณะนี้มีผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อและเอสเอ็มอีแบงก์ได้ตรวจสอบคุณสมบัติคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้หมดตามเป้าหมาย