PSL - ถือ

PSL - ถือ

ค่าใช้จ่ายพิเศษฉุดผลประกอบการไตรมาส 4/58; มีแนวโน้มขาดทุนหลักเพิ่มขึ้นในไตรมาสหน้า

ขาดทุนหลักเป็นไปตามคาด

PSL รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 1,513 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ หากไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน 5 ล้านบาท, ขาดทุนจากการขายเรือ 279 ล้านบาท, ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 841 ล้านบาท, หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 6 ล้านบาทและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 25 ล้านบาท ขาดทุนหลักไตรมาส 4/58 จะอยู่ที่ 410 ล้านบาท ลดลงทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่ขาดทุนหลักเป็นไปตามที่เราคาด ขาดทุนสุทธินั้นต่ำกว่าที่เราคาดมากจากค่าใช้จ่ายพิเศษ

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงเนื่องจาก 1) อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยที่ต่ำลง, 2) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น และ 3) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยลดลง 26% YoY และ 18% QoQ มาอยู่ที่ 5,950 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 10.5% จาก 3.5% ในไตรมาส 4/57 และ 7.9% ในไตรมาส 3/58 นอกจากนี้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 39% YoY และ 5% QoQ เป็น 151 ล้านบาท จากยอดหนี้คงค้างที่สูงขึ้น ทั้งนี้จำนวนเรือเพิ่มขึ้นเป็น 45 ลำในไตรมาส 4/58 จาก 44 ลำในไตรมาส 4/57 (แต่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง QoQ)

แนวโน้ม

ดัชนี BDI เฉลี่ยในไตรมาส 1/59 ลดลง 40% YoY และ 42% QoQ มาอยู่ที่ 370 จุด นำโดยการลดลงของดัชนี Capesize 52% ตามด้วยดัชนี Supramax 41% และดัชนี Handysize 34% โดยปัจจัยหลักเบื้องหลังการลดลงของดัชนี BDI และอัตราค่าระวางเรือ ได้แก่ 1) โลว์ซีซั่นของอุปสงค์ในช่วงตรุษจีน และ 2) การชะลอตัวของอุปสงค์ของโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนที่เศรษฐกิจอ่อนตัวลง ดังนั้น เราคาดผลการดำเนินงานหลักของบริษัทจะยังคงขาดทุนต่อเนื่องและมีแนวโน้มขาดทุนเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/59

สิ่งที่เปลี่ยนไป

เราปรับประมาณการผลขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 613 ล้านบาท จาก 432 ล้านบาท สะท้อนการปรับลดสมมติฐานอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยลง 4% เป็น 7,516 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำในปี 2559 ดังนั้นราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ที่ 6 บาท (จาก 9.75บาท) อ้างอิงจาก PBV ที่ 0.6 เท่า ซึ่งเป็นมูลค่าซื้อขายหุ้นในช่วงที่วัฏจักรธุรกิจตกต่ำ

คำแนะนำ

ในมุมมองของเรา แนวโน้มตลาดเรือเทกองและผลประกอบการของบริษัทน่าจะยังออ่นตัวต่อเนื่องในปี 2559 จากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวและน่าจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไป อย่างไรก็ตามเราคิดว่าราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งซื้อขายกันอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2559 ที่ 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว 1.2 เท่าอยู่ 1.8 ส่วนเบี่บงเบนมาตรฐานได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว