กสท.เคาะมติเพิกถอนไลเซ่นส์'ไทยทีวี-โลก้า'

กสท.เคาะมติเพิกถอนไลเซ่นส์'ไทยทีวี-โลก้า'

บอร์ดกสท.ลงมติเอกฉันท์สั่ง"เพิกถอนใบอนุญาต"2ช่องทีวีดิจิทัล"ไทยทีวี-โลก้า" หลังไม่จ่ายเงินประมูลงวดที่2ตามกำหนด

หลังจากบริษัทไทยทีวี จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือช่องไทยทีวีและโลก้า ไม่นำเงินประมูลงวดที่ 2 มูลค่ารวม 288 ล้านบาท มาชำระตามกำหนดเมื่อวัน 3 ก.พ.2559 ซึ่งครบกำหนดการพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราว 90 วันนับจากวันที่ 2 พ.ย.2558

นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วานนี้ (8 ก.พ.) มีมติเอกฉันท์"เพิกถอนใบอนุญาต"ทีวีดิจิทัล ของบริษัทไทยทีวี จำกัด คือช่องไทยทีวีและโลก้า (เอ็มวีทีวี แฟมิลี่) โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทไทยทีวี ให้รับทราบมติดังกล่าว ภายใน 1-2 วัน

เนื่องจากบริษัทไทยทีวี ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นจะต้องนำเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลที่ค้างทั้งหมดอีก 5 งวดจากทั้งหมด 6 งวด รวมเป็นเงิน 1,634 ล้านบาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มาจ่ายภายใน 30 วัน นับจากได้รับคำสั่ง นอกจากนี้จะเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม ทั้งค่าปรับจากการจ่ายเงินค่าประมูลงวดที่ 2 ล่าช้า นับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2558 รวมทั้งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีอัตรา 2% ของรายได้ที่ประกอบกิจการ

หากบริษัทไทยทีวีไม่นำเงินมาชำระ สำนักงาน กสทช.จะใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ออกหนังสือค้ำประกัน(แบงก์การันตี) มาชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างจ่ายแทนบริษัทไทยทีวีต่อไป 

อย่างไรก็ตามในกรณีการเรียกชำระเงินจากแบงก์การันตี จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาในขั้นตอนของศาลปกครองด้วย โดยหากมีคำสั่งเกี่ยวข้องจากคดีที่บริษัทไทยทีวี ฟ้อง กสทช. ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขณะนี้

การพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตไทยทีวีและการเรียกชำระเงินค่าประมูลทั้งหมดเป็นการพิจารณาของ บอร์ด กสท. เป็นการทำงานคนละขั้นตอนกับคณะทำงานแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ของสำนักงาน กสทช.ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.และกรรมการ กสท. กล่าวว่าในแง่กฎหมายหากผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถจ่ายเงินค่าประมูลได้ กสท.ต้องพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ยังไม่สามารถช่วยเหลืออย่างอื่นใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่า หาก กสทช. เร่งทำงานแก้ปัญหา เช่น เรื่องการกำกับราคาค่าเช่าโครงข่าย(mux) การแจกคูปองให้ครบ 22 ล้านครัวเรือน และการส่งเสริมการประกอบกิจการอื่นๆ เช่น การวัดทำระบบเรทติ้งทีวีใหม่ จะช่วยทำให้สถานการณ์ของทีวีดิจิทัลรายใหม่ดำเนินการได้ดีขึ้น

"จากการสอบถามส่วนตัวกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรายใหม่ ส่วนใหญ่บอกว่ายังสู้ ยังไหว และยังไม่ถอดใจ เพียงแต่ต้องการเรียกร้องให้ กสทช.เร่งทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ในเรื่องต่างๆ ให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะสามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ เมื่อการแข่งขันเข้มข้นรุนแรงขึ้น การกำกับดูแลก็ต้องเป็นธรรมให้มากขึ้นด้วย"

นายสุชาติ ชมกุล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัทไทยทีวี จำกัด กล่าวว่าหลังจากได้รับหนังสือเพิกถอนใบอนุญาต จาก สำนักงาน กสทช.แล้ว ไทยทีวี จะทำหนังสือคัดค้านการยึดเงินจากแบงก์การันตี และจะยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองดำเนินการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากกรณีดังกล่าว เนื่องจากในคดีที่บริษัทไทยทีวี ฟ้องคดี กสทช.ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2558 กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ปฏิบัติงานเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดินให้เป็นไปตามแผนแม่บทที่กำหนดไว้ระหว่างปี 2555-2558 ทำให้ไทยทีวีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่องได้รับความเสียหาย โดยเรียกค่าเสียหาย 713 ล้านบาท ปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล