'เจ๊เกียว'ขู่เลิกเดินรถ อ้างรัฐไม่ช่วย

'เจ๊เกียว'ขู่เลิกเดินรถ อ้างรัฐไม่ช่วย

โลว์คอสต์แข่งเดือดกระทบรถร่วม “เจ๊เกียว” ขู่เลิกวิ่งรถ เหตุรัฐไม่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง และเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์ และบริษัทเดินรถ เชิดชัยจำกัด กล่าวหลังเข้ายื่นหนังสือต่อนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วานนี้(4ก.พ.) เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ผ่อนผันการจัดเก็บค่าธรรมเที่ยววิ่ง หรือค่าขา โดยให้มีการจัดเก็บตามจำนวนเที่ยววิ่งที่แท้จริง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้จำนวนเที่ยววิ่งจริงลดลงต่ำกว่าเที่ยววิ่งขั้นต่ำที่บริษัทได้ตกลงไว้กับ บขส.

นอกจากนี้ ยังเสนอขอให้ บขส.ยกเว้นค่าปรับกรณีที่บริษัทไม่นำรถเข้ามาจดทะเบียน และเปิดวิ่งให้บริการในเส้นทางที่ขอเดินรถเพิ่ม

 สำหรับกรณีที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้รถร่วม บขส. ปรับลดค่าโดยสารลงอีกกิโลเมตรละ 1 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป บริษัทก็พร้อมที่จะลดราคาเพราะเป็นคำสั่งตามกฎหมาย ซึ่งก็จะทำให้รายได้ของบริษัทซึ่งขาดทุนอยู่แล้วมีรายได้ลดลงไปอีก โดยปัจจัยหลักที่เข้ามาส่งผลต่อรายได้ของบริษัทคือ ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับผู้ประกอบการรถร่วม ประสบภาวะการแข่งขันจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์)

“เศรษฐกิจก็ไม่ดีสายการบินต้นทุนต่ำแย่งลูกค้าไป ทำให้ผู้โดยสารลดลงทุกเส้นทาง เที่ยววิ่งแต่ละวันก็ลดลงต่ำกว่าเที่ยววิ่งขั้นต่ำที่เราตกลงไว้กับบขส. แต่ บขส.ก็ยังเก็บค่าเที่ยววิ่งเท่าเดิมและยังต้องเสียค่าปรับกรณีที่ไม่นำรถมาวิ่งในเส้นที่เราขออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย ที่ผ่านมาเราขอความช่วยเหลือจาก บขส.มาเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยเลย วันนี้จึงมาทวงถามอีกครั้งหากกระทรวง ไม่ช่วยบริษัทเชิดชัย ก็พร้อมที่จะยกเลิกวิ่งรถ หรือลาออกจากการวิ่งรถร่วมกับ บขส. เพราะขาดทุนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”นางสุจินดา กล่าว

นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ และรักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่าบขส. ได้ดำเนินการออกระเบียบเพื่อผ่อนปรนการจัดเก็บค่าเที่ยววิ่งตามจริงไปตั้งแต่ปีก่อน เพื่อบรรเทาภาระความเดือดร้อนให้กับประชาชน และได้แจ้งเป็นหนังสือทางการให้ทุกบริษัทรับทราบ รวมถึงบริษัทเดินรถเชิดชัยด้วย

 ส่วนกรณีการขอยกเว้นค่าปรับเมื่อผู้ประกอบการไม่สามารถนำรถมาวิ่งตามเส้นทางที่ได้ขอเดินรถนั้น บขส. ไม่สามารถผ่อนผันหรือยกเว้นค่าปรับได้ เพราะเป็นค่าปรับที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ผู้ประกอบการฝ่าฝืนกฎหมาย

“หากผู้ประกอบการมายื่นขอไลเซ่นส์เดินรถไว้ กฎหมายกำหนดให้ต้องนำรถมาวิ่ง เพราะหากไม่วิ่งจะกระทบกับผู้โดยสารที่มารอใช้บริการ รวมทั้งยังเป็นการไปสกัดกั้นไม่ให้ผู้ประกอบการเดินรถรายอื่นเข้ามาแข่งขันเดินรถ ทำแบบนี้จึงถือว่าไม่แฟร์ เพราะเหมือนเป็นการกั๊กใบอนุญาตเดินรถไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกฎหมายจึงกำหนดให้มีการปรับเป็นรายวันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการนำรถมาวิ่ง ส่วนกรณีที่นางสุจินดา จะคืนใบอนุญาตเดินรถ ตามกฎหมายกำหนดผู้ประกอบการเดินรถสามารถบอกเลิกสัญญาเดินรถกับ บขส. ได้ โดยบขส.จะประกาศหาผู้ประกอบการเดินรถรายใหม่เข้ามาเดินรถแทน มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการหารถเข้ามาเสริม และให้บริการประชาชนได้ต่อเนื่องอย่างแน่นอน”นายนพรัตน์ กล่าว