Corporate News (2 ก.พ.59)

EFORL   ซื้อ    ราคาพื้นฐาน 1.00 บาท

EFORL : แม้เราคาดถึงการเติบโตของผลประกอบการที่ต่ำในปี 2558 จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของการขยายธุรกิจของ EFORL แผนนี้จะส่งผลในปี 2559 ซึ่งทันเวลาที่จะชดเชยผลกระทบของการเกิด share dilution ที่ 33% ในปี 2559 และ EFORL จะสามารถมุ่งไปยังการเป็นบริษัทไร้หนี้ในปีหน้า ดังนั้นเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงล่าสุดนี้นั้นเป็นการปรับลงที่มากเกินไป คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 1.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)


TRUE    ขาย    ราคาพื้นฐาน 5.80 บาท

TRUE : บริษัทเสนอแผนเพิ่มทุนเพื่อจ่ายคืนหนี้และเพื่อลงทุนในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราลดคาดการณ์ผลขาดทุนในปี 2559 จาก 5,400 ล้านบาท เป็น 1,300 ล้านบาท จากการลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย ด้วยสมมุติฐานที่สอดคล้องกับการจ่ายคืนหนี้และแผนการลงทุน ปรับลดคำแนะนำเป็น ขาย ราคาพื้นฐาน 5.80 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือ 5.20 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

MC    ซื้อ    Consensus 16.00 บาท

MC : นางสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกางเกนแม็คยีนส์ เผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทเน้นความคุ้มค่า เดินหน้าจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะการเพิ่มความถี่การทำโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นรายได้ทั้งปีโต 15% ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่การขยายสาขาใช้งบ 80 ล้านบาท เปิดเพิ่ม 50 สาขา จากเดิมมี 266 สาขา เพื่อให้สอดคล้องกับแผน 4 ปีวางเป้าหมายรายได้โตเป็นตัวเลขสองหลัก และสร้างแบรนด์แม็คยีนส์ให้เป็นมูจิ ประเทศไทย (โพสต์ทูเดย์)

PSTC : นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้ออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อมรวมถึงผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร้จกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และคาดว่าจะมีการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนท์) PSTC-W1 ได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังเพิ่มทุน หนี้สินต่อทุน หรือ D/E เหลือเพียง 0.25 เท่า ส่งผลให้บริษัทมีขีดความสามารถในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกได้อีกมาก หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษ้ทมีเป้าหมายขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานทางเลือกให้ได้ 100 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปี จากเดิม 22.7 เมกะวัตต์ (กรุงเทพธุรกิจ)