'อย.'ย้ำยาสลายไขมันไม่มีจริง

'อย.'ย้ำยาสลายไขมันไม่มีจริง

"อย." ย้ำยาสลายไขมันไม่มีจริง ชี้เป็นวิธีใช้ยาแบบไม่เป็นตามข้อบ่งชี้

เภสัชกร (ภก.) ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีการฉีดสลายไขมันส่วนต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีการโฆษณาว่าฉีดสลายไขมันเฉพาะจุดได้ เช่น หน้าท้อง ท้องแขน ต้นขา หนังตา หรือ ปีกจมูก ซึ่งทางแพทยสภาได้ระบุว่า เทคนิคการสลายไขมันด้วยการฉีดเฉพาะจุด ( Meso therapy) ยังไม่เคยมีการรับรองมาตรฐานการ หรือ มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับที่ชัดเจนแต่อย่างใด ว่า ยืนยันว่า อย.ไม่เคยมีการขึ้นทะเบียนยาใดๆ ที่มีคุณสมบัติเพื่อสลายไขมัน ส่วนการใช้ยาหรือสารอื่นๆ เพื่อสลายไขมันนั้น จัดเป็นการใช้ยาที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้ยา

“แพทย์ผู้ใช้ยาหรือสารใดๆกับผู้ป่วย มีจรรยาบรรณการประกอบวิชาชีพเป็นเครื่องกำกับอยู่ ตามหลักแล้วก็ต้องใช้ยาตามสรรพคุณของยาที่ได้รับการอนุมัติ ส่วนที่จะอ้างว่าเป็นการปรุงยาเพื่อใช้กับผู้ป่วยเฉพาะรายในสถานพยาบาลนั้น แพทย์หรือผู้ใช้ยาดังกล่าวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบผลจากการใช้ยาดังกล่าว เพราะการใช้ยาหรือสารใดๆ จะถูกควบคุมด้วย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 พ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 หากมีการร้องเรียนหรือผลกระทบจากการใช้ยาไม่เป็นไปตามข้อบ่งชี้”ภก.ประพนธ์ กล่าว

ภก.ประพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการใช้วิตามินซี หรือ สารแอลคานีทีน มาฉีดเพื่อหวังผลในการสลายไขมันนั้น ก็คล้ายๆกับกรณีการใช้สารกลูตาไธโอน มาฉีดเพื่อให้มีสีผิวขาว แต่ความจริงแล้ว อย.ไม่เคยขึ้นทะเบียนสารดังกล่าวเพื่อการทำให้ผิวขาว แต่ขึ้นทะเบียนเพื่อกำจัดพิษของโลหะหนัก พิษจากแคดเมียม พิษจากตะกั่ว พิษจากปรอท เป็นต้น และใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งการใช้กลูตาไธโอน เพื่อทำให้ผิวขาวจึงเป็นกรณีตัวอย่างในการใช้ยาไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งแพทย์ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบหากใช้แล้วเกิดอันตรายหรือผลกระทบกับผู้ป่วยขึ้น ปัจจุบัน อย.ดูแลในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของยา ส่วนเรื่องการใช้ยาหากมีการกระทำผิดก็จะเป็นหน้าที่ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และแพทยสภา ที่ดูแลเรื่องมาตรฐานการรักษา และจริยธรรมของแพทย์ผู้ใช้ยา

ภาพจาก mict.go.th