กยศ.จ่อยึดทรัพย์ไม่คืนหนี้

กยศ.จ่อยึดทรัพย์ไม่คืนหนี้

กยศ.ทยอยส่งเงินให้ผู้กู้รายเก่า-รายใหม่ปี2558 พร้อมเปิดกู้ภาคเรียนที่2 ปี2559 ย้ำเอาจริงไม่คืนหนี้ยึดทรัพย์แน่

ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กยศ. ทยอยส่งเงินให้ผู้กู้ทั้งรายเก่าและผู้กู้รายใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ซึ่งมีผู้กู้ทั้งรายเก่าและรายใหม่ จำนวน 597,746 ราย และอยู่ระหว่างเปิดให้ยื่นกู้ยืมในภาคเรียนที่2 ส่วนปีการศึกษา 2559 คาดว่า มีผู้กู้ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ประมาณ 670,000 ราย แบ่งเป็นผู้กู้รายเก่าจำนวน 470,000 ราย รายใหม่ 200,000 ราย ใช้งบประมาณจำนวน 27,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่กรอบอัตราผู้กู้ปีการศึกษา 2559 ลดลง ส่วนหนึ่งเพราะอัตราการเกิดลดลง และการปล่อยกู้ในปีการศึกษา2559 กยศ. จะพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น โดยจะมีการกำหนดผลการเรียน ขั้นต่ำของผู้กู้อยู่ที่จะต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 เพื่อให้สามารถคัดกรองผู้กู้ที่มีความจำเป็นและสามารถนำเงินไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ

ทั้งนี้ สำหรับการชำระหนี้ กยศ.คืน ปีนี้มีผู้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยปี 2558 มียอดชำระจำนวน 17,000 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นจากปี2557 ที่มีประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ชำระหนี้ในโครงการต่างๆ อีกทั้งในปีนี้กยศ.ยังทำความร่วมมือกับองค์กรนายจ้างให้รณรงค์ให้พนักงานที่เป็นลูกหนี้กยศ.เข้าร่วมโครงการโดยใช้วิธีการหักเงินเดือน ซึ่งมีบริษัทเอกชนหลายแห่งให้ความสนใจ ขณะเดียวกัน ปลัดกระทรวงการคลัง ยังส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่งให้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย ดังนั้นเชื่อว่า ปีต่อไปจะมียอดชำระหนี้เพิ่มขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ที่ที่ไม่ชำระหนี้นั้น ขณะนี้กยศ. ได้ยื่นฟ้องร้อง และมีผู้ที่ต้องส่งเรื่องยึดทรัพย์บังคับคดี แบ่งเป็นปี 2547 จำนวน 4,179 ราย เป็นเงิน 109 ล้านบาท ปี2548 จำนวน 19,993 ราย เป็นเงิน 522 ล้านบาท และปี2549 จำนวน 36,037 ราย เป็นเงิน 1,900 ล้านบาท รวม 3 ปีมีผู้ที่ถูกส่งเรื่องยึดทรัพย์จำนวน 60,209 ราย โดยในจำนวนนี้ สืบพบทรัพย์และทำการยึดทรัพย์และขายทอดตลาดแล้ว แบ่งเป็น ปี 2547 จำนวน 665 ราย ปี2548 จำนวน 1,910 ราย และปี2549 จำนวน 1,278 ราย รวม 3 ปี มีผู้ถูกยึดทรัพย์ไปแล้วจำนวน 3,853 ราย ส่วนการดำเนินการฟ้องร้องผู้กู้ที่ค้างชำระในปี 2550 นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการประสานกับทีมทนายความ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าข่ายถูกดำเนินคดีอีกจำนวน 50,000 ราย โดยขณะนี้ต้องบอกว่า กยศ.จริงจังกับการดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่มาชำระหนี้อย่างมาก อยากให้คนที่ไม่มาใช้หนี้และรู้ตัวว่าเข้าข่ายจะถูกฟ้องเร่งมาติดต่อ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องถูกฟ้องร้องบังคับคดีและยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดแน่นอน