ผุดสถานีใหม่'ปาดังเบซาร์' เชื่อมระบบราง'ไทย-มาเลย์'

ผุดสถานีใหม่'ปาดังเบซาร์' เชื่อมระบบราง'ไทย-มาเลย์'

ผู้ว่าฯ รฟท.เปิดสถานีรถไฟแห่งใหม่ "ปาดังเบซาร์" เชื่อมระบบราง "ไทย-มาเลย์" วันละ 4 เที่ยว

วันนี้ ( 21 ธ.ค.)ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา นายวุฒิชัย กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ เป็นประธานเปิดการเดินรถไฟขบวนดีเซลรางพิเศษ(DRC) หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ เที่ยวปฐมฤกษ์ เวลา 09.149 น. จากสถานีรถไฟหาดใหญ่ ปลายทางสถานีรถไฟปาดังเบซาร์(ฝั่งไทย) อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่การรถไฟมาเลเซ๊ยเข้าร่วม พร้อมนั่งโดยสารขบวนรถดังกล่าวไปยังสถานีปาดังเบซาร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดเดินรถในครั้งนี้ จากนั้นได้นั่งรถด่วนพิเศษ ETS (Electric Train Service)ของการรถไฟประเทศมาเลเซีย ไปยังสถานีรถไฟอลอสตาร์เพื่อร่วมสำรวจเส้นทางการเชื่อมโยงบในอนาคตก่อนเดินทางกลับมายังสถานีปาดังเบซาร์ ประเทศไทย

นายวุฒิชัย เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดเดินรถขบวนพิเศษหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ครั้งนี้เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากเดิมทีในพื้นที่ฝั่งประเทศไทยไม่มีสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ หากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสถานีต้นทางใดๆก็ตามเพื่อมายังพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จะต้องไปลงที่สถานีรถไฟในฝั่งประเทศมาเลเซียซึ่งต้องผ่านพิธีการทางศุลกากรข้่ามแดนเพื่อเดินทางย้อนกลับมาประเทศไทย กระทั่งวันนี้รฟท.ได้เปิดสถานีรถไฟปาดังเบซาร์เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่สามารถเดินทางมายังสถานีรถไฟในฝั่งไทยได้เลยทันที 

นอกจากนี้เส้นทางดังกล่าวนี้จะมีส่วนช่วยในการรองรับการเชื่อมโยงการเดินทางระบบรางในภูมิภาคอาเซียนด้วย เนื่องจากปัจจุบันมาเลเซียได้มีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูง(ETS)ที่ครอบคลุมการเดินทางหลายพื้นที่ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย ดังนั้นการเปิดสถานีปาดังฯจึงมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยการให้บริการครั้งนี้นำร่องก่อน4 เที่ยวต่อวันและในอนาคตจะขยายเป็น8 เที่ยวต่อวัน

“เส้นทางนี้เป็นระยะเริ่มต้นที่เน้นการรองรับผู้โดยสารที่ที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวฝั่งไทย โดยเมื่อมาถึงสถานีปลายทางที่รัฐเปอร์ลิสเพื่อจะเข้ามายังฝั่งไทยก็สามารถนั่งรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์ต่อมายังพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ได้ทันที ซึ่งในอนาคตเส้นทางรถไฟจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวมาเลย์ที่สะดวกในการเดินทางมากขึ้น” นายวุฒิชัย กล่าว

นายสมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปิดสถานีฯใหม่เพื่อรองรับการเชื่อมโยงเส้นทางเพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซียจะเข้ามาไทยก็ไม่สะดวกนักเพราะไม่มีรถไฟขบวนหลักในการให้บริการ ทำให้มีผู้โดยสารใช้เส้นทางการเดินทางระบบรางมีจำนวนน้อยเฉลี่ยประมาณ100คนต่อวันเท่านั้น เบื้องต้นหากเปิดสถานีและมีเส้นทางหลักระหว่างปาดังฯ-หาดใหญ่มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแน่นอน

สำหรับขบวนรถไฟดีเซลรางพิเศษ(DRC) หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ อัตราค่าโดยสารคนละ 80บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหากเดินทางมาถึงสถานีปาดังฯสามารถเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากสถานีฯจะมีขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ของทั้ง2ประเทศ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ รัฐปีนัง, เมืองอิโปห์ รัฐเปรัก และ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซ๊ย

โดยข้อมูลตารางเวลาเดินรถไฟดีเซลรางปรับอากาศ 4 ขบวน/วัน ประกอบด้วย ขบวน 947 หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ออกจากหาดใหญ่เวลา 07:30น. , ขบวน 948 ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่ ออกจากปาดังฯเวลา 08:58 น., ขบวน 949 หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ออกจากหาดใหญ่ 13:05 และขบวน 950 ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่ ออกจากปาดังฯเวลา 14:43 น.