ดุสิตโพลชี้ประชาชนอยากให้ ปฏิรูปครูมากสุด

ดุสิตโพลชี้ประชาชนอยากให้ ปฏิรูปครูมากสุด

สวนดุสิตโพลระบุประชาชนอยากให้ปฏิรูปครูมากสุดถึง 91.94%

สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดทำโพลเรื่อง"การปฏิรูปการศึกษา" ในสายตาประชาชน โดยระบุว่าการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552 - 2561) รัฐบาลมุ่งเน้นให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่าง มีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้ของคนไทย เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและเรียนรู้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารและจัดการศึกษา เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการปฏิรูปการศึกษาไทย "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,328 คน ระหว่างวันที่ 5-14 ธันวาคม 2558 สรุปผล ได้ดังนี้ 

1.ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปการศึกษาไทยเรื่องใด? ที่ควรให้ความสำคัญเร่งด่วนมากที่สุด

อันดับ1ครู 91.94% อันดับ2การประเมินและพัฒนามาตรฐานการศึกษา85.54% อันดับ3พัฒนาคุณภาพการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ 78.31% อันดับ4การบริหารจัดการ 76.18% อันดับ5เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา 66.64% อันดับ 6หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ 64.46% 

2.ณ วันนี้ ประชาชนคิดว่าจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่?อันดับ1ควรปรับ84.49%เพราะจะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลคุณภาพการศึกษาไทยมีมาตรฐาน ไม่ล้าหลังกว่าประเทศในกลุ่มอาเซียน ฯลฯอันดับ2ไม่แน่ใจ12.65% เพราะไม่รู้ว่าปรับแล้วจะดีขึ้นหรือไม่ ที่ผ่านมาก็ปรับมาแล้วหลายครั้ง การศึกษาจะพัฒนาและมีประสิทธิภาพได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่ายมากกว่า ฯลฯ

อันดับ3ไม่ควรปรับ 2.86%เพราะเสียเวลา เสียงบประมาณ ต้องมาเริ่มใหม่ ควรปรับหรือแก้ไขเพียงบางส่วนที่มีปัญหาเท่านั้น ฯลฯ 

3.ทำไม? การปฏิรูปการศึกษาจึงทำได้ยากอันดับ1ระบบการบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ หน่วยงานกำกับดูแลยังไม่ลงตัว ทำงานล่าช้า ยึดติดแบบเดิมๆ เป็นระบบราชการ81.33% อันดับ2ครูมีปัญหาภาระงานมาก ครูไม่เพียงพอ ขาดสวัสดิการและแรงจูงใจ

71.46%อันดับ3ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญ ไม่ปฏิบัติอย่างจริงจัง ขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง68.60%อันดับ4หลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนแปลงบ่อย ไม่ได้เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เน้นท่องจำ งบประมาณไม่ทั่วถึง อุปกรณ์การเรียนการสอนไม่ทันสมัย

67.85%อันดับ5สภาพเศรษฐกิจและสังคม ฐานะความเป็นอยู่ ความเหลื่อมล้ำ 63.40%