นักโภชนาการชี้ คนไทยบริโภคโชเดียมเกิน2-3เท่า

นักโภชนาการชี้ คนไทยบริโภคโชเดียมเกิน2-3เท่า

นักโภชนาการ ชี้ปรุงอาหารเติมผงปรุงรส เหตุคนไทยบริโภคโซเดียมเกิน​​ 2-3เท่า

ผศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่คนไทยหันมาใส่ใจทำอาหารเองแทนการซื้ออาหารนอกบ้าน แต่พฤติกรรมอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การใช้ผงปรุงรสมาก โดยพบว่าผงปรุงรสเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีการบริโภคโซเดียมสูงกว่าปริมาณที่แนะนำ2-3เท่า ซึ่งการบริโภคมากเกินไปนั้น ส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เป็นผลทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ที่ทำให้เกิดอัตราตายสูงที่สุดทั่วโลก ทั้งนี้ พบว่าในผงปรุงรสไม่ว่าชนิดผงหรือชนิดก้อน จะมีปริมาณโซเดียมเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ20-50และบางชนิดเติมผงชูรสด้วย

ผศ.ดร.วันทนีย์ กล่าวอีกว่าการจำกัดปริมาณการใช้ผงปรุงรสสามารถทำได้ โดยไม่ควรใช้ผงปรุงรสหลายชนิดพร้อมๆ กัน เพราะผงปรุงรสแต่ละชนิดมีส่วนประกอบคล้ายกัน โดยเฉพาะโซเดียม หากใส่ผงปรุงรสในอาหารทุกอย่างก็จะทำให้ได้รับโซเดียมในปริมาณสูง นอกจากนี้ การใช้ผงปรุงรสควรอ่านฉลากเพื่อดูปริมาณของโซเดียม เมื่อใช้ให้เติมผงปรุงรสแต่พอดี เช่น ใช้ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำ หรือ เติมเพื่อให้พอมีรสชาติเท่านั้น ทั้งนี้ การปรุงอาหารด้วยการเติมน้ำตาล ซีอิ้ว น้ำปลา หรือเครื่องเทศอื่นที่ทำให้รสจัด จะทำให้สามารถควบคุมปริมาณความหวาน ความเค็มได้ด้วยตนเอง และสามารถทราบปริมาณได้ชัดกว่าการเติมผงปรุงรส

“การหันมาใช้วิธีปรุงอาหารแบบเดิมก็สามารถลดการใช้ผงปรุงรสได้ โดยสามารถทำได้ด้วยการใช้โครงกระดูกไก่ หรือ กระดูกหมู เคี่ยวประมาณ1-2ชั่วโมง เพื่อให้ได้น้ำซุปที่นำไปใช้ปรุงอาหารต่างๆ ทั้งผัด หรือ ต้ม ก็สามารถใช้ได้ และสามารถเติมผัก เช่น ไชเท้า หัวหอม แครอท ก็จะทำให้รสกลมกล่อมมากขึ้น ซึ่งสามารถทำแล้วเก็บไว้ใช้ได้ทั้งสัปดาห์ เมื่อน้ำซุปกลมกล่อมก็จะลดการเติมผงปรุงรส ผงชูรส รวมทั้งเครื่องปรุงน้ำปลา ซีอิ๊ว ลงด้วย ซึ่งอยากให้ประชาชนอย่ากังวลว่าอาหารแต่ละชนิดต้องเติมผงต่างๆถึงจะอร่อย หากสามารถลดการปรุงได้ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังลงด้วย”ผศ.ดร.วันทนีย์ กล่าว