น้ำท่วมสุราษฎร์เริ่มคลี่คลาย แต่ไม่ไว้ใจพื้นที่เสี่ยง

ความคืบหน้าน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในพื้นที่4ตำบล ประกอบด้วย ตำบลคลองสระ,ตำบลป่าร่อน,ตำบลกรูด และตำบลช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์  ระดับน้ำสูงกว่า1เมตรในที่ลุ่ม บนถนนมีระดับน้ำสูงกว่า40 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไปด้วยความอยากลำบาก ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 3,000 ครัวเรือนนั้น 

ล่าสุด เมื่อวันทืี่ 1 ธันวาคม 2558  ฝนหยุดตกบนถนนระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่เหลือที่ลุ่มที่เป็นสวนยางพารายังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง โดยผู้นำชุมชนได้นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายเตรียมให้การช่วยเหลือ และโรงเรียนบ้านห้วยด่าน หมู่ที่6ต.ช้างซ้าย ที่ถูกน้ำท่วมปิดเรียน1วันนั้น ล่าสุดเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติแล้ว

นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า  จากกรณีที่ช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกัน และตกหนักในบางพื้นที่เป็นเวลาหลายวันยังมีความเป็นห่วงพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่อดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก 8อำเภอหลัก ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.วิภาวดี อ.คีรีรัฐนิคม อ.บ้านตาขุน อ.พนม อ.ชัยบุรี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับภูเขาบริเวณทิศตะวันตก นอกจากนี้ ยังต้องจับตาพื้นที่รอยต่อกับ จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ที่มีน้ำป่าทะลักมาจาก อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้น้ำท่วมสูง อีกทั้งลุ่มแม่น้ำตาปี ได้แก่ อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน และ อ.เมือง ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำตาปีเอ่อล้นเข้าท่วม

ผู้ว่าฯ ยังแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบลุ่ม/ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังจากฝนตกหนัก อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรงระยะนี้ นอกจากนี้ได้สั่งการไปยังทุกอำเภอ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเจ้าหน้าที่/“มิสเตอร์เตือนภัย”เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมการรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

ด้านนายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัย ภายหลังจากที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งเตือนว่า ในช่วงนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จะได้รับผลกระทบจากร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุม ทำให้ฝนตกหนักถึงตกหนักมาก ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องแล้วขอให้ประชาชนในจังหวัดคอยติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปฏิบัติตามคำแนะนำ และเตรียมความพร้อมรับมือเบื้องต้นในการเก็บของมีค่าไว้บนที่สูง อย่างไรก็ตาม พบว่าพื้นที่การเกษตรที่มักจะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นพืชประเภทปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา