แนะซื้อ HANA

แนะซื้อ HANA

Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น HANA ของ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน)

ซึ่งเป็นผู้ให้บริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง โดย HANA ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ (USD) และเมื่อมีความชัดเจนว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก 

โดยบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนสัดส่วนการผลิตสินค้า (Product mix) ไปสู่สินค้าที่มีอัตรากำไรสูง (High margin) โดยเน้นสินค้าในอุตสาหกรรมการแพทย์สำหรับโรงพยาบาล และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ราคาแพง ที่มีความซับซ้อนขึ้น

HANA มีโรงงานอยู่ 5 แห่งที่ จ.ลำพูน และอยุธยา ในไทย และมีโรงงานที่ประเทศจีนสหรัฐและกำลังจะสร้างเสร็จที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งโรงงานที่เกาะกง นี้ จะช่วยลดต้นทุนได้มาก เนื่องจากค่าแรงถูก และมีกำลังการผลิตมากขึ้น

สมาคมนักวิเคราะห์คาดว่า HANA ปีนี้มีกำไรหดลงไป 35% และปีหน้าปีกำไรกลับมาขยายตัวก้าวกระโดดที่ 22% โดยมีราคาเป้าหมายของที่ 37.04 บาท

หุ้นมีสัญญาณทางเทคนิคโดยมีสัญญาณซื้อรายวันและรายสัปดาห์ ทำให้ราคาหุ้นอยู่ในขาขึ้น ซึ่งมีราคาเป้าหมายแรกในทางเทคนิคอยู่ที่ 38.50 บาท

ด้านปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้กลับมาผันผวน และตลาดมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมี 4 ปัจจัยหลักๆ

ปัจจัยที่ 1 เป็นบวก คือ มีลุ้นว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความเป็นไปได้สูงว่าจะขยายมาตรการ QE ออกไปจากที่จะสิ้นสุดเดือน กันยายน ปี 2016 และออกมาตรการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่มขึ้นอีกแต่ว่าต้องเผชิญกับปัจจัยที่ 2 ที่เป็นลบจากจีน โดยตลาดหุ้นจีนลงแรงมากเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เนื่องจาก ทางการจีนเข้ามาจัดการเรื่อง Margin lending หรือการปล่อยสินเชื่อการซื้อหุ้นที่มากกว่าเกณฑ์ ของทางการจีน ทำให้ตลาดหุ้นลงแรง ซึ่งมีผลให้ต้นสัปดาห์นี้ ตลาดเปิดมานักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุน

ปัจจัยที่ 3 คือ ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) ของสหรัฐที่จะออกมาในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งถ้าออกมาดี จะส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมเดือน ธันวาคม นี้ สูงขึ้นไปอีก

ปัจจัยที่ 4 เป็นปัจจัยภายในประเทศ ที่ตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ออกมาลดลงไป 87% โดยส่วนใหญ่เกิดมาจากกลุ่มพลังงาน ที่รับรู้การขาดทุนจากบ่อน้ำมันของ ปตท. สผ. และการขาดทุนจากสินค้าคงคลังเนื่องจากการราคาน้ำมันดิบร่วงลงมาแรงเป็นตัวหลัก กับในกลุ่มเหล็ก จึงมีความเป็นไปได้ว่านักวิเคราะห์น่าจะปรับประมาณการ การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้ลงจากเดิมซึ่งน่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นไทยพอสมควร

อนึ่ง อาจมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการที่นักลงทุนจะเริ่มเข้าลงทุนในกองทุน RMF และ LTF ในช่วงปลายปี ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดปรับเป็นบวกได้

ด้านกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index สัปดาห์นี้อยู่ในกรอบ 1,348-1,374 จุด