ฟ้องเพิ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยามไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์

พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธเนศ หอมทวนลม กับพวกรวม 28 คนซึ่งเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.)เป็นจำเลยที่ 1-28 ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนด ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคล เข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่24พ.ย.2555พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งการชุมนุมมีการจับกุมกลุ่มชุมนุมได้ทั้งสิ้น 127 ราย

โดยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม สรุปสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2555 โดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 127 ราย ซึ่งแยกดำเนินคดี3สำนวน ประกอบด้วยสำนวนที่ 1 นายยี่ไทย ปิตะวนิคหรือสันต์ทัศน์ธาร กับพวก ที่ชุมนุมบริเวณแยกมิสกวันในช่วงเช้าของวันที่ 24 พ.ย.2555,สำนวนที่2น.ส.พิชญ์สินี พิพลัชภามลกับพวก รวม14คนที่ชุมนุมบริเวณแยกมิสกวันในช่วงบ่ายของวันที่ 24 พ.ย.2555 และสำนวนที่ 3 นายธเนศ หอมทวนลม กับพวกรวม97คนที่ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในวันที่ 24 พ.ย.2555 

โดยศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2715/2558 ซึ่งศาลสอบคำให้การแล้วจำเลยทั้ง 28 คนให้การปฎิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 ก.พ. 2559 เวลา 09.00 น. 

ภายหลังน.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความจำเลย กล่าวว่า สำนวนคดีที่มีผู้รวมกระทำผิดกับนายนายธเนศ ซึ่งอัยการสั่งฟ้องมีทั้งหมด 97 คน แต่วันนี้ประสานนำตัวมาฟ้องได้ก่อน 28 คน ส่วนอีก 69 คน อยู่ระหว่างติดต่อประสานตัว เพื่อมาฟ้องในภายหลัง โดยกรณีชุมนุมดังกล่าว ก่อนหน้านี้อัยการได้ยื่นฟ้องไปแล้ว 2 สำนวน ประกอบด้วย สำนวนแรก นายยี่ไทย กับพวก 11 คน สำนวนที่สอง ยื่นฟ้องน.ส.พิชญ์สินี กับพวกรวม 10 คน ซึ่งสำนวนนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 4 คน โดยศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีของนายธเนศ ที่ยื่นฟ้องวันนี้พร้อมกับสำนวนของนายยี่ไทยและ น.ส.พิชญ์สินี กับพวกในวันที่ 11 ก.พ.59 ทั้งนั้สำหรับนายธเนศ กับพวกรวม 28 คน วันนี้ศาลได้ให้ปล่อยชั่วคราวไประหว่างการพิจาณา โดยไม่ต้องว่างหลักประกัน แต่ศาลให้สาบานตนแล้ว ขณะที่แนวทางการต่อสู้ จะนำสืบให้เห็นถึงเจตนาของประชาชนที่ออกมาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา