'ถาวร'แจงไม่จำเป็นเพิ่มวาระกกต. อยู่นานสร้างอิทธิพล

'ถาวร'แจงไม่จำเป็นเพิ่มวาระกกต. อยู่นานสร้างอิทธิพล

"ถาวร"ระบุไม่จำเป็น ต้องปรับเพิ่มจำนวน-วาระกกต. เหตุอยู่นานสร้างอิทธิพล เห็นด้วยให้ศาลรธน.อยู่ในหมวดศาล

นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวถึงความเห็นของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มีแนวทางที่จะเพิ่มจำนวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จาก5คนเป็น7คนโดยแยกเป็นมาจาก ผู้พิพากษา2คน และจากสาขาวิชาการด้านต่างๆ5คน มีวาระคราวละ7ปี เน้นการทำงานที่เข้มข้นขึ้นว่า ไม่ได้หมายความว่าเขาทำงานเข้มข้นขึ้น ที่ผ่านมา กกต.ทำหน้าที่เป็นคนตั้งรับให้ใครไปร้องเรียนก่อนถึงจะทำงาน หมายความว่า ต้องมีคนร้องเรียนมาก่อนจึงจะทำงาน ตนยืนยันว่ากกต.จังหวัดบางแห่ง สามารถซื้อความถูกต้องได้ มีการรับเงิน ตนยืนยันได้ และต่อไปประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการร้องเรียน หรือนำคดีขึ้นสู่ศาลได้ด้วยตัวเอง หากพบการทุจริตเลือกตั้ง

นายถาวร กล่าวว่า การแก้กฎหมายอันเป็นการปฏิรูปหรือการบัญญัติรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องการร้องเรียนควรเขียนให้ชัดเจน ว่าประชาชนสามารรถเป็นเจ้าของสิทธิ เจ้าของอำนาจหากพบว่ามีกากระทำผิดอันเกิดจากการเลือกตั้ง และจะเป็นการขจัดการซื้อเสียงได้

ส่วนการเพิ่มจำนวนกกต.และวาระการดำรงตำแหน่ง นายถาวร กล่าวว่า กกต.มีเพียง5คน และดำรงตำแหน่งคราวละ5ปี น่าจะเพียงพอ เพราะการทำงานในเชิงรุก เชิงบริหาร อย่างกกต.ไม่ควรใช้เวลามาก การตรวจสอบเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งจะต้องทำอย่างรวดเร็ว หากมีเวลามากหรือ อยู่นานๆ ก็อาจไปสร้างอิทธิพลได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการรวมศาลรัฐธรรมนูญไว้ในหมวดศาล นายถาวร กล่าวว่า เพราะได้บทเรียนจากการที่ นปช.และนักการเมืองฝ่ายระบอบทักษิณ ไม่ยอมรับในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาขัดขวางต่อต้าน เป็นเหตุให้กระบวนการของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ศักดิสิทธิ์ ทั้งๆที่เขียนให้คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ทุกองค์กร ทุกศาล ทุกคน ทุกหน่วยต้องฟัง ต้องปฏิบัติตาม แต่ปรากฏเมื่อไม่ได้อยู่หมวดศาล เขาก็ไม่ยอมรับ การที่จะดำเนินการฐานละเมิดศาลจึงไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการเอาศาลรัฐธรรมนูญ ไปอยู่ในหมวดศาล ก็เป็นเรื่องที่ดี จะเกิดประโยชน์ ทำให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญศักดิ์สิทธิ