ผู้ส่งออกข้าวทุ่ม 2.6 พันล. ช่วยพยุงราคาข้าวหอมมะลิ

ผู้ส่งออกข้าวทุ่ม 2.6 พันล. ช่วยพยุงราคาข้าวหอมมะลิ

สมาคมผู้ส่งออกข้าว ใช้งบกว่า 2.6 พันลบ. รับซื้อข้าวจากชาวนาไทยที่เข้าร่วมโครงการดูแลราคาข้าวหอมมะลิใหม่ฤดูการผลิตปี 58/59 จำนวน 1 แสนตัน

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ได้แจ้งให้สมาชิกสมาคมฯ ที่เข้าร่วมโครงการดูแลราคาข้าวหอมมะลิใหม่ ฤดูนาปี 2558/2559 เริ่มรับซื้อข้าวสารในตลาดทันทีให้ครบตามจำนวน 100,000 ตัน โดยใช้งบกว่า 2,600 ล้านบาท เพื่อช่วยพยุงราคาข้าวหอมมะลิใหม่ที่กำลังออกสู่ตลาดไม่ให้ตกต่ำและเป็นการสร้างเสถียรภาพราคาข้าวหอมมะลิในช่วงต้นฤดูให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนา

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ริเริ่มโครงการนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ภาคเอกชนจะลงไปช่วยเหลือชาวนาไทยและคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวไทยจะได้ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลและช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการผลิตข้าวเพื่อเลี้ยงประชากรในประเทศ และทำให้ประเทศมีสินค้าข้าวหอมมะลิที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาในตลาดโลก

สำหรับแนวทางดำเนินโครงการ คือ สมาชิกสมาคมฯ ที่เข้าร่วมโครงการจะรับซื้อข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคาไม่ต่ำกว่า 26,000 บาทต่อตัน (คำนวณเป็นราคาข้าวเปลือกหอมมะลิไม่ต่ำกว่า 13,000-13,500 บาท) และคุณภาพข้าวเป็นไปตามมาตรฐานส่งออกส่งถึงโกดังผู้ส่งออกที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล หรือโกดังที่สมาคมอนุมัติและจะเก็บรักษาข้าวจำนวนดังกล่าวเป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยจะไม่มีการนำข้าวสารส่วนนี้ออกสู่ตลาดทั้งตลาดภายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว โดยการดำเนินการโครงการนี้ สมาคมฯ จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่สมาชิกสมาคมที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย ค่าดอกเบี้ย ค่าประกันภัย ค่าใช้จ่ายในการรับสินค้า ค่าเช่าโกดัง ค่าตรวจสอบคุณภาพ ค่ารมยา และค่าบริหารจัดการภายในโกดัง ในช่วงของการเก็บรักษาระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะรวมเป็นเงินค่าใช้จ่ายประมาณ 50 ล้านบาท