‘คอมเซเว่น’แตกธุรกิจใหม่ ลุยหนักเอสเอ็มอี-ออนไลน์

‘คอมเซเว่น’แตกธุรกิจใหม่ ลุยหนักเอสเอ็มอี-ออนไลน์

คอมเซเว่น หลังระดมทุนตลาดหุ้น 1,000 ล้าน เปิดเกมบุกตลาดเอสเอ็มอีเต็มตัว ตั้งแผนกใหม่ “บานาน่า บิสซิเนส” เจาะกำลังซื้อสินค้าไอทีในกลุ่มองค์กร

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ภายใต้ชื่อบานาน่าไอที เผยว่า บริษัทเริ่มปรับกลยุทธ์ธุรกิจหลังได้เงินทุุนจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ 1,000 ล้านบาท โดยวางแผนขยายการเติบโตในช่องทางใหม่ๆ นอกเหนือจากร้านค้าปลีกไอที บานาน่าไอที, บานาน่า โมบาย, ไอบีท และไอสตูดิโอ บาย คอมเซเว่น 

โดยเฉพาะตลาดไอทีในกลุ่มองค์กรขนาดกลางถึงเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่บริษัทมองว่ามีโอกาสทางการตลาดสูงจากโวลุ่มการซื้อสินค้าไอทีของกลุ่มเอสเอ็มอีราว 5 หมื่นล้านบาท แต่ที่ผ่านมาคอมเซเว่นมีหน้าร้านที่ขายสินค้าไอทีที่เน้นผู้ใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมเอสเอ็มอีด้วยจากสาขาที่มีมากกว่าร้อยแห่งทั่วประเทศ


นายสุระ กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มตั้งแผนกใหม่ “บานาน่า บิสซิเนส” เพื่อดูแลการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่จะเน้นขนาดเอสเอ็มอีเท่านั้น เพื่อต่อยอดโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจจากการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอที และมีร้านบานาน่ามากกว่า160 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ให้สามารถบริการลูกค้าเอสเอ็มอีได้ด้วย เน้นนำเสนอในรูปแบบโซลูชั่น และบริการที่ปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ เช่น โรงแรม หรือร้านอาหารที่ต้องการระบบไอทีเข้าไปช่วยสนับสนุนธุรกิจ

พร้อมกับนำเสนอซอฟต์แวร์ “พอยท์ ออฟ เซล (พีโอเอส)” ที่คอมเซเว่นพัฒนาขึ้นใช้เองมากว่า 10 ปีก่อนจะมานำเสนอขายให้กับผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจ เช่น ร้านขายสินค้าแฟชั่น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

“เราจะคล้ายๆ เอสไอ (ซิสเต็มส์ อินทริเกรชั่น) แต่ไม่จับบริษัทใหญ่ๆ เน้นธุรกิจเล็กถึงกลางเท่านั้น ให้คนที่อยากเปิดร้านขายของ หรือเป็นผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ เดินมาหาเราเพื่อทำโซลูชั่นให้ ซึ่งเราพร้อมสามารถวิ่งหาลูกค้าได้เร็วเพราะมีหน้าร้านอยู่แล้ว ช่วงเริ่มต้นจะเริ่มนำร่องราว 50 สาขาก่อน มีพนักงานที่ดูแลสาขาละคนใส่สูทคอยเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้ากลุ่มนี้”

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวธุรกิจบานาน่า บิิสซิเนสครั้งแรกในงาน “บ้านและสวนแฟร์” เพื่อนำเสนอสินค้าไอทีในรูปแบบโซลูชั่นประเภทต่างๆ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บ้านเป็นสำนักงาน พร้อมกับทำโปรโมชั่นให้ลูกค้าสามารถผ่อนสินค้าทุกชิ้นได้ 0% นาน 10 เดือน

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารคอมเซเว่น ระบุว่า การเติบโตในกลุ่มสินค้าไอทียังโตได้ แต่เป็นการโตแบบตัวเลขหลักเดียว ทั้งโน้ตบุุ๊ค และโมบายก็ยังโตได้ดี มีกลุ่มแทบเล็ตที่จะเห็นยอดขายลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งบริษัทก็ยังคงนโยบายการลงทุนขยายธุรกิจในกลุ่มนี้เพราะเป็นการเติบโตที่กลายเป็นออแกนิค โกรธว์ หรือค่อยๆ โตไปแล้ว รวมถึงแผนการเปิดสาขาใหม่ 30-50 สาขาต่อปี

ทั้งอยู่ระหว่างการเตรียมขยายช่องทางการขายใหม่ในรูปแบบอีคอมเมิร์ซครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อ “bananastore.com” สำหรับการจำหน่ายสินค้าไอทีทั่วไปและสินค้าสำหรับองค์กร ที่มีแคตตาลอคให้สามารถเลือกซื้อหาและชำระค่าสินค้าได้ครบวงจร คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือน ธ.ค.นี้

"หน้าร้านจริงๆ แล้วเราวางของขายได้แค่ 40% ของสินค้าไอทีทั้งหมดที่เรามี แต่อีก 60% เอาวางขายได้ไม่หมด หรือโชว์ในร้านไม่ได้ เราก็จะเอามาใส่ไว้ในบานาน่า สโตร์ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาเพื่อรองรับเทรนด์ของผู้บริโภคด้วยที่เริ่มไม่เดินไปร้านแล้ว แต่ซื้อจากออนไลน์แทน แต่เราก็ไม่ได้มองว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความสำคัญของหน้าร้านหายไป เพราะก็ยังมีคนที่ยังชอบได้จับได้ลองของจริง หรืออยากเดินไปใช้เซอร์วิสที่ร้านอยู่ ทำให้เราต้องพัฒนาควบคู่กันไป"

ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรวม 15,000 ล้านบาท หรือโตขึ้น 5% และกำไรโตกว่า 10% พร้อมกับคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจบานาน่า บิสสิเนส 1,000 ล้านบาท และยอดขายจากออนไลน์อีก 1,000 ล้านบาทในปี 2559