'อภิรดี'ถกทูตญี่ปุ่น เผยเร่งร่วมมือลงทุน-จับคู่ธุรกิจSMEs

'อภิรดี'ถกทูตญี่ปุ่น เผยเร่งร่วมมือลงทุน-จับคู่ธุรกิจSMEs

"อภิรดี" รมว.พาณิชย์ หารือ "ชิโระ ซะโดะชิมะ" ทูตญี่ปุ่น เผยเร่งขยายความร่วมมือการค้าการลงทุน และจับคู่ธุรกิจSMEs

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของนายชิโระ ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า ในการหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย นโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2559 ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าโดยรวมคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ ส่งผลให้การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการค้าการลงทุน อาทิ การลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญา และการทบทวนกฎหมายการแข่งขันทางการค้าโดยเน้นดำเนินการในแนวทางที่เป็นสากลและการค้ายุคใหม่ เพื่อให้เกิดการขยายตัวทางการค้าการลงทุนเพิ่มมากขึ้น

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้นำเสนอนโยบายของญี่ปุ่นที่ต้องการเน้นผลักดันประเด็นเศรษฐกิจ 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรม 2) การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาบุคลากร 3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพสูง และ 4) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่ง รมว.พาณิชย์ ยินดีที่จะสนับสนุนแนวคิดของเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ เนื่องจากนโยบายเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย

นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือด้านการจับคู่ทางธุรกิจระหว่าง SMEs ของไทยและญี่ปุ่น โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างความเข้มแข็งให้กับ SMEs ไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเยือนญี่ปุ่นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย.58 ซึ่งจะมีการจัดการประชุม High Level Joint Commission (HLJC) และการหารือกับผู้บริหารในรัฐบาลและนักธุรกิจรายสำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น