'นัฑ'ไม่หวั่นขรก.สภาแต่งดำประท้วง

'นัฑ'ไม่หวั่นขรก.สภาแต่งดำประท้วง

"นัฑ"ไม่หวั่นขรก.สภาแต่งดำประท้วง เชื่อไม่สร้างปัญหาการทำหน้าที่เลขาสภาฯ แจงวุฒิสภา หรือ สภาผู้แทนฯ ก็คนองค์กรเดียวกัน

นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังจากมีคำสั่งคสช.ให้ตนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักสภาผู้แทนราษฎร แทนนายจเร พันธุ์เปรื่อง ที่ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนได้เข้ารายงานตัวกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แล้วตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าการทำงานในตำแหน่งเลขาธิการสภาฯ จะไม่มีปัญหา ส่วนข่าวที่ออกมาว่าข้าราชการในสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะนัดแต่งชุดดำเพื่อแสดงสัญลักษณ์ถึงความไม่พอใจในการโยกกย้ายตนจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้ข้ามห้วยมาทำหน้าที่ในสำนักเลขาธิการสภาฯ ในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค.นี้ นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง และเชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะไม่สร้างปัญหาต่อการทำงาน เพราะข้อเท็จจริงตนถือว่าเป็นคนในองค์กรเดียวกัน ไม่ใช่เป็นการโยกย้ายข้ามห้วย แม้ตนจะมาจากฝั่งของวุฒิสภา แต่ในงานด้านสภาผู้แทนฯ ตนก็ได้เข้ามาช่วยทำงานในหลายๆ ด้าน โดยการเป็นกรรมการและคณะทำงานในหลายๆ ชุด ขณะเดียวกันการทำหน้าที่ในสภา ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะสังกัดวุฒิสภา หรือสภาผู้แทนฯ ก็ย่อมดำเนินการได้อยู่แล้ว เพราะเป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีการนัดพบปะข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ หรือไม่นั้น ทั้งนี้หลังจากได้เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้วอย่างเป็นทางการ และภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สปท. แล้ว ตนได้นัดข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในระดับผู้บริหารมาพูดคุยถึงกรอบการทำงานและประเด็นต่างๆ  

“ผมถือเป็นคนในสภา แต่การได้รับคำสั่งจากผุ้ใหญ่ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของสภาผู้แทนฯ ก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ และให้ยึดถึอว่าการทำหน้าที่ตรงนี้มีความสำคัญอย่างมาก ส่วนจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการสภาฯ ไปตลอด 7 ปี ที่มีอายุราชการเหลืออยู่ก่อนเกษียณหรือไม่ ผมไม่ทราบ เพราะวันหนึ่งก็อาจถูกโกย้ายได้เหมือนกัน แต่เมื่อผู้ใหญ่ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่ ก็ต้องดำเนินการตามคำสั่งนั้น อย่างไรก็ตามที่มองกันว่าผมย้ายข้ามห้วยมานั้น ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะในอดีตที่ผ่านมาการแต่งตั้งบุคคลภายนอกให้เข้ามาทำหน้าที่เลขาธิการสภาฯ ก็มาจากกระทรวงมหาดไทย มาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือมาจากคนในสายทหาร ก็ยังเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นในกรณีของผมคงไม่ใช่การย้ายข้ามห้วยอย่างที่ถูกวิจารณ์” นายนัฑ กล่าว

นายนัฑ กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุม สปท.ในวันที่ 19 ต.ค.จะมีวาระการพิจารณาที่สำคัญคือ การตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างข้อบังคับการประชุม สปท.ฉบับใหม่ โดยเบื้องต้นจะมีรายละเอียดที่แตกต่างจากการทำงานของ ส.ส. และสว. ที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นลักษณะการทำงานรูปแบบไหนนั้น จะต้องให้ที่ประชุมและคณะทำงานพิจารณาอีกครั้ง แต่เชื่อว่าการสานต่องานปฏิรูปทั้ง 38 วาระ ต้องนำมาพิจารณาเพื่อสานต่อ รวมถึงการนำประเด็นปัญหามาพิจารณาแก้ไข ขณะที่การกำหนดประชุม สปท. เบื้องต้นอาจจะใช้สัปดาห์ละ 2 วัน ในวันจันทร์และอังคาร