PFหั่นเป้ายอดขายปีนี้เหลือ1.35หมื่นลบ.

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือ 1.35 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.55 หมื่นล้านบาท หลัง 9 เดือนทำยอดขายได้ 8 พันล้านบาท ซึ่งหวังว่าในช่วงไตรมาส 4 ทำยอดขายให้ได้ 6 พันล้านบาท เพื่อที่จะส่งให้ยอดขายทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งในปีนี้ยอดขายของบริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ จึงทำให้ยอดขายของโครงการปรับตัวลดลง

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้าเปิดโครงการใหม่ปีนี้เหลือ 14 โครงการ มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมเปิด 24 โครงการ มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งการที่บริษัทฯได้เลื่อน 10 โครงการมูลค่าราว 1.2 หมื่นล้านบาทออกไปนั้น เพื่อรอให้สภาวะตลาดดีขึ้นกว่าเดิม

"ปีนี้เปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ จากเดิมที่จะเปิด 24 โครงการ ซึ่งได้เลื่อนไปเปิดปีหน้า 10โครงการ ซึ่งรอสภาวะตลาดให้ดีกว่านี้ เนื่องจากที่ดินที่มีอยู่มีซัพพลายที่ล้นจึงอยากชะลอออกไป โดยปีหน้าคาดว่าจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงและบางนา-ตราด ซึ่งระดับราคาจะเจาะกลุ่มระดับล่าง ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทฯได้เปิดตัว 14โครงการเป็นแนวราบทั้งหมด" นายวงศกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.43 หมื่นล้านบาท โดยใน 9 เดือนสามารถทำรายได้ได้แล้ว 6.5 พันล้านบาท ซึ่งเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังไม่ฟื้นตัวและผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่น ทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย   

โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) 6.7 พันล้านบาท โดยเป็นในส่วนของแนวราบ 1 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5.7 พันล้านบาท โดยจะโอนในช่วงทีเหลือของปี 1.5 พันล้านบาท และรับรู้ในปี 59 จำนวน 3.5 พันล้านบาท และในปี 60 จำนวน 1.7 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อขายที่ดินเปล่า มูลค่า 1 พันล้านบาทซึ่งคาดจะสรุปภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้อยู่ระหว่างเจรจาขายโครงการยูนิลอฟท์ที่จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ มองว่ากำไรสุทธิในไตรมาส4/58 จะทำสถิติสูงสุดของปี หนุนปีนี้กำไรนิวไฮจากปีก่อนที่ทำได้ 398.80 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกทำได้ 520.49 ล้านบาท

นายวงศกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 59 จะเติบโต 10%จากปีนี้ที่คาดว่าตลาดอสังหาฯจะติดลบเล็กน้อย หลังได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการอสังหาฯ ซึ่งเดิมหากไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ คาดว่าตลาดอสังหาฯปีนี้จะติดลบ

"หากสิ้นปี 59 หากไม่มีมาตรการใดๆมารองรับอีก มองว่าในปี 60 ภาคอสังหาฯ อาจจะชะลอตัวลงอีกครั้งก็เป็นได้ " นายวงศกรณ์ กล่าว

โดยในปีนี้บริษัทฯ มีสต็อกบ้านแบ่งเป็นแนวราบ 6 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 พันล้านบาท จะช่วยระบายสต็อคออกได้ในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นทุกระดับราคาเพื่อรองรับกับลูกค้าที่จะใช้สิทธิในมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ