นักธุรกิจกับความเชื่อสุสาน'พระเจ้าตากสิน'

นักธุรกิจกับความเชื่อสุสาน'พระเจ้าตากสิน'

นักธุรกิจไทยกับความเชื่อสุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

สุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่มลฑลซัวเถา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ถูกบรรจุไว้ในโปรแกรม “ทัวร์ไทยไปซัวเถา”  นอกจากไฮไลท์สำคัญอย่าง "ศาลเจ้าพ่อเสือ" "ศาลไต้ฮงกง"แล้ว ทัวร์จะพาไปเคารพสักการะสุสานของพระองค์ แม้สภาพของสุสานในอดีตจะไม่สวยงามเท่าที่ควร แต่เมื่อไปถึงเมืองจีนแล้ว คนไทยโดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ต่างต้องการไปกราบไหว้ "ฮวงซุ้ย"  ของพระมหากษัตริย์ไทยเชื้อสายจีน ผู้กอบกู้เอกราชประเทศไทยกลับคืนมาจากพม่า

ปัจจุบัน สุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งนี้ กำลังได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของนักธุรกิจชาวไทยและองค์กรส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อปรับปรุงให้เป็นสุสานที่สมพระเกียรติยศของ“มหาราช”  และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สวยงาม บนพื้นที่กว่า 4 ไร่

ตามประวัติศาสตร์อ้างอิงว่า รกรากตระกูลของสมเด็จพระเจ้าตากอยู่ที่ซัวเถา บิดาของพระองค์เป็นชาวซัวเถา แซ่แต้ เดินทางเข้ามาตั้งรกรากในอยุธยา ปัจจุบัน ก็ยังมีลูกหลานของตระกูลท่านในซัวเถามากราบไหว้สุสานอยู่ เพราะฉะนั้น เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากเสด็จสวรรคต จึงได้มีการนำชุดฉลองพระองค์กลับมาที่ซัวเถา สร้างสุสานและบรรจุชุดฉลองพระองค์ไว้ในนั้น แต่ภายหลังสุสานก็เริ่มเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา

นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน) หัวแรงสำคัญในการบูรณะสุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เล่าว่า แต่เดิมสุสานจะมีแค่ตัวฮวงซุ้ย และบันไดด้านหน้าเพียง 3 ขั้น ต่อมา ก็มีคนไทยไปช่วยกันสร้างรูปปั้นของพระองค์ไว้ด้านหน้า รวมถึงมีนักธุรกิจชาวไทยบริจาคเงิน 5 แสนหยวนไปปรับปรุงบันไดเป็น 9 ขั้นให้สวยงามขึ้น และสร้างกำแพงเล็ก ๆ ไว้ด้านหลังฮวงซุ้ยเพื่อให้เป็นตามหลักฮวงจุ้ย อย่างไรก็ตาม พื้นที่โดยรอบก็ยังอยู่สภาพที่ไม่สวยงาม เป็นป่า มีบ่อน้ำที่มีน้ำเน่า และมีเศยขยะจากชุมชนและโรงงานตั้งอยู่ล้อมรอบตัวสุสาน ทางวิหารเซียนและ เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จึงร่วมกันทำ”โครงการบูรณะสุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ใช้เงินบูรณะไปประมาณ 30 ล้านบาท

"ต้นเรื่องของโครงการบูรณะสุสานพระองค์นั้น เป็นเพราะผมได้เจอกับ อจ.วินัย กุลกอบเกียรติ ลูกของอจ.สง่า กุลกอบเกียรติ ผู้สร้างวิหารเซียนที่พัทยา ซึ่งได้ปรารภว่า อยากจะบูรณะสุสานของสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ซัวเถา จริง ๆ แล้ว เมื่อก่อน ผมก็เคยไปสุสานแห่งนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้น ยังไม่มีกำลังทรัพย์ แต่ภายหลังเมื่อตอนที่ อจ.วินัย มาปรารภ ผมตัดสินใจทันทีว่า ต้องทำเรื่องนี้ ที่ชีวิตผมมีวันนี้ได้ก็เพราะพระองค์"

นายทนงศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า เขาเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2533 เน้นสร้างอาคารพาณิชย์ ช่วงเวลานั้น บริษัทของเขาไม่ได้เป็นยิ่งใหญ่เหมือน ทุกวันนี้ จนเมื่อปี พ.ศ.2555 จึงมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ เมื่อ ทนงศักดิ์ ตัดสินใจทำโปรเจค"สำเพ็ง 2" ริมถนนกัลปพฤกษ์

"ตอนนั้น ผมซื้อที่ริมถนนกัลปพฤกษ์มา 23 ไร่ ตั้งใจทำโครงการสำเพ็ง 2 แหล่งค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ในฝั่งธนฯ เป็นโครงการในสเกลที่ใหญ่มาก ผมเลยตัดสินใจไปบวงสรวงขอพรจากสมเด็จพระเจ้าตาก ที่อสุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากที่วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 55 อธิฐานขอให้การสร้างบ้านสร้างเมืองของผมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ปรากฎว่า ในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน สำเพ็ง 2 ขายออกได้กว่า 400 ยูนิต มูลค่ากว่า 2,000 พันล้านบาท ตรงนั้นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของเจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งสามารถเข้าตลาดหลกทรัพย์ได้ในปี 2557 ปัจจุบัน โครงการสำเพ็ง 2 ขยายพื้นที่ออกไป 2 ฝั่งถนนกัลปพฤกษ์ เกือบ 200 ไร่ สร้างมูลค่าการขายไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท"

นายทนงศักดิ์ ยืนยันว่า หลังจากเขาบวงสรวงขอพรจากพระองค์แล้ว ธุรกิจ เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ ก็ "เฮงๆๆๆ "มาตลอด จึงตั้งใจจะทำศาลของพระองค์ไว้ที่สำเพ็ง 2 โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์(มทร.รัตนโกสินทร์) เป็นผู้ออกแบบรูปปั้นเหมือนของพระองค์ให้ และเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 ทนงศักดิ์  ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินที่อยู่ด้านหน้า “สำเพ็ง 2” พร้อมประดิษฐาน รูปหล่อขนาดใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้เป็นทีสักการะบูชาของคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวจีน 

นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า ตามโครงการสำเพ็ง 2 นั้น จะมีการสร้างโซนที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งนิยมเดินทางมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และช็อปปิ้งสินค้าในไทย ซึ่งสำเพ็ง 2 สามารถตอบโจทย์นั้นได้ ขณะเดียวกัน ก็ตั้งใจทำห้องด้านล่างของศาลเป็นห้องที่รวบรวมประวัติ เรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

ส่วนสุสานของพระองค์ที่ซัวเถานั้น นายทนงศักดิ์ ระบุว่า การบูรณะครั้งใหญ่ใกล้เสร็จสิ้นลงแล้ว และในวันที่ 23 ตุลาคม 2558 นี้ ได้เชิญ “ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย” องคมนตรี ไปเป็นประธานพิธีเปิดเป็นการภายใน และกำลังทำเรื่องทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ เสด็จเปิดอย่างเป็นทางการด้วย

นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในการบูรณะครั้งนี้ประมาณ 30 ล้านบาท มีการก่อสร้างศาลา และอาคารสำนักงานที่มีห้องน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นที่พักและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ก่อสร้างกำแหงเมืองจีนจำลองสูง 4 เมตรที่ด้านหลัง เพื่อให้เข้ากับคติความเชื่อ "หลังพิงกำแพง" พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สะอาดสวยงาม

"ความคาดหวังของผม คิดว่า ผมต้องการทำเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ พระมหากษัตริย์ของเรา ผู้กอบกู้ประเทศชาติ แต่ อาจารย์วินัย(อาจารย์วินัย กุลกอบเกียรติ ลูกของอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ผู้สร้างวิหารเซียนที่พัทยา จังหวัดชลบุรี)บอกผมว่า ถ้าบูรณะสุสานเสร็จแล้วคนไทยจะรักกัน เพราะพระองค์ก็เปรียบเหมือนพ่อคนหนึ่งของคนไทย และตามคติความเชื่อของคนจีน ถ้าฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษไม่ได้รับการดูแล ก็จะเกิดปัญหากับคนในบ้าน เพราะฉะนั้น ถ้าบูรณะสุสานให้ดี บ้านก็จะกลับมาดี"นายทนงศักดิ์ กล่าว