สพฐ.วางแผนขับเคลื่อน5งานหลักในปีงบ59

สพฐ.วางแผนขับเคลื่อน5งานหลักในปีงบ59

สพฐ.วางแผนขับเคลื่อน 5 งานหลักในปีงบฯ59 เน้นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลและ ศธ.

นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องงบประมาณของ สพฐ. ที่แม้จะได้รับงบประมาณปี2559มากถึง 319,000 ล้านบาท แต่งบประมาณส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเงินเดือน ในขณะที่งบประมาณดำเนินการโครงการหรือแผนงานต่างๆ มีอยู่เพียง 17,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด โดยจะนำงบประมาณของแต่ละสำนักมาหลอมรวมกันและกำหนดให้มีซีอีโอรับผิดชอบในเรื่องนั้น ๆ

ทั้งนี้ จะเน้นโครงการแผนงานเดิม และโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ใน 5 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ใช้งบประมาณดำเนินการเบื้องต้น 60 ล้านบาท มีนางสุกัญญา งามบรรจง ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาเป็นเจ้าภาพหลัก 2.โครงการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ใช้งบประมาณ 400 กว่าล้านบาท มีนางวรรณา ช่องดารากุล ผอ.สถาบันภาษาอังกฤษเป็นเจ้าภาพ 3.โครงการวัดผลและประเมินผลการศึกษา ใช้งบประมาณ 105 ล้านบาท มีนายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองผอ.สำนักทดสอบทางการศึกษาเป็นเจ้าภาพ 4.การปฎิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้งบประมาณ 400 ล้านบาทมีนางสุกัญญา งามบรรจง ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาเป็นเจ้าภาพ และ5.โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) ใช้งบประมาณ 1,700 ล้านบาท มีนายสมเกียรติ สรรคพงษ์ ผอ.สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนเป็นเจ้าภาพ

 “ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญที่สุดในเวลานี้และจะเริ่มคิกออฟในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการอบรมผู้นำการนิเทศการจัดกิจกรรมในโครงการสมาร์ทเทรนเนอร์ (Smart Trainer) ผมจะนัดประชุมผอ.และรองผอ.เขตพื้นที่ฯ โรงเรียนนำร่อง3,800โรงเพื่อซักซ้อมแนวปฏิบัติและจะจัดประชุมทางไกลผู้บริหารโรงเรียนและครูเพื่อสร้างความเข้าใจ และจะเปิดวอร์รูมเพื่อรับทราบปัญหาและให้คำชี้แนะกับผู้บริหารและครูด้วย”เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

นายการุณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการดำเนินการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน ในปีงบประมาณ 2558 จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาทให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันตามที่รัฐบาลกำหนด โดยวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต้องก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายภายในเดือน ธ.ค. และยังมีงบลงทุนในปีงบประมาณ 2559 ซึ่ง สพฐ.ได้รับมาอีก 16,600 ล้านบาท ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.2559 ซึ่งทั้งสองโครงการถือเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ สพฐ.ต้องเร่งรัดดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลา