รอชี้ชะตา'ชินภัทร'คดีทุจริตสอบครูผู้ช่วย

รอชี้ชะตา'ชินภัทร'คดีทุจริตสอบครูผู้ช่วย

“พล.อ.ดาว์พงษ์” เผยได้ผลสอบวินัยอย่างร้ายแรง “ชินภัทร” คดีทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว12 แล้ว รอชี้ขาดในที่ประชุมอ.ก.พ.กระทรวง เร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 28 กันยายน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงอดีตผู้บริหาร ศธ. ว่า ขณะนี้นายอภิชาต จีระวุฒิ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กรณีทุจริตจัดสอบคัดเลือก บุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ (ว12) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สรุปผลการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงและส่งมาถึงตนเรียบร้อยแล้ว และเร็วๆนี้เตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สพฐ.ทำหน้าที่แทน อ.ก.พ.กระทรวง มีรมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มีการคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการ สอศ.ผลการสอบสวนเป็นเช่นไรนั้นยังไม่ได้รับรายงาน

ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ได้มอบให้นายประชาคม จันทรชิต ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม สอศ. เป็นประธานคณะกรรมการสอบทางวินัย นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา สอศ.ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และ นายบำรุง อร่ามเรือง อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว ในกรณีจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษาตามโครงการภายใต้แผนฟื้นฟู เศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ เอสพี 2 ของ สอศ.ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้สรุปผลการสอบเสนอมายังตนเมื่อปลายเดือนกรกฏาคม 2558

“อย่างไรก็ตาม กรณีของนายเจี่ยง มีประเด็นว่าผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจบรรจุแต่งตั้งคือรัฐมนตรี เพราะปัจจุบันนายเจี่ยงดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงาน ซึ่งเป็นระดับ10 ดังนั้นจึงไม่แน่ชัดว่าเลขาธิการ กอศ.จะสามารถพิจารณาโทษได้หรือไม่ เพราะฉะนั้น จึงได้ทำหนังสือไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชพลเรือน(ก.พ.) ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำตอบส่วนที่มีการสรุปผลการสอบสวนฯ ว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรงนั้น เมื่อถึงเวลาก็ต้องเสนอที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวง พิจารณาไปตามนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ซึ่งโทษก็คือ ปลดออกกับไล่ออกเท่านั้น”ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวในที่สุด