ขึ้นตามตลาดหุ้นโลก-คลายกังวลตลาดหุ้นจีน

ขึ้นตามตลาดหุ้นโลก-คลายกังวลตลาดหุ้นจีน

ถือเงินสด/ทยอยขาย จากมุมมองว่าตลาดหุ้นโลกและไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมอีกครั้ง

Market Outlook

คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น ปัจจัยหนุนระยะสั้นจากภายนอก แนะนำ ถือเงินสด/ขายตัดขาดทุน หากต่ำกว่า 1355 จุด ลงมา


คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้น แนวต้าน 1386/1400 จุด แนวรับ 1375/1370 จุด โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยภายนอก หลังตลาดหุ้นโลกปรับขึ้น จากนักลงทุนคลายกังวลระยะสั้นเรื่องฟองสบู่แตกในตลาดหุ้นจีน โดยทางการจีนออกมาตรการควบคุมการซื้อขายสัญญา Futures ส่งผลให้หยุดการไหลลงของดัชนีได้ (แต่คาดตลาดหุ้นจีนยังมีความเสี่ยงของการปรับตัวลง) ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปออกมาแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ส่วนปัจจัยในประเทศ วานนี้ ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือ SME แล้วคาดช่วยหนุนเศรษฐกิจในระยะต่อไป ส่วนปัจจัยกดดันยังมาจากการขายสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ

กลยุทธ์ แนะนำ ถือเงินสด/ทยอยขาย จากมุมมองว่าตลาดหุ้นโลกและไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมอีกครั้ง

ปัจจัยต่างประเทศ

ตลาดหุ้นจีนดีดตัวขึ้นหลังทางการใช้มาตรการควบคุมตลาด futures โดยปริมาณการซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (futures market) ของจีนปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์วานนี้ และลดลงกว่า 99% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนมิ.ย. (ดูรูปประกอบในเล่ม) จากก่อนหน้านี้ตลาด futures ของจีนถูกจัดอันดับเป็นตลาด futures ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากทางการจีนออกมาตรการหลายอย่างเพื่อควบคุมการซื้อขาย เพื่อป้องกันการไหลลงต่อเนื่องของตลาดหุ้นจีน โดยมาตรการที่นำมาใช้รวมถึง การเก็บมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น การกำหนดเพดานการถือครอง และการสอบสวนผู้ที่เปิดสถานะ short จำนวนมาก

วานนี้ ตลาดหุ้นจีน ปรับขึ้นกว่า 2.9% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเช่นกัน หลังก่อนหน้านี้ทางการออกกฎควบคุมการขาย short และสอบสวนการส่งคำสั่งอัตโนมัติ (computer trading) อย่างไรก็ดี เราคาดว่า มาตรการทั้งหลายที่ทางการจีนนำมาใช้จะช่วยพยุงตลาดในระยะสั้นเท่านั้น และนักวิเคราะห์ต่างมองว่าการแทรกแซงจากทางการจีน บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นยังไม่เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง ซึ่งปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลงจะยิ่งทำให้ตลาดมีความผันผวนมากยิ่งขึ้น และไม่ดึงดูดนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศ โดย
ขณะนี้นัลงทุนรายย่อยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด

ตัวเลขเศรษฐกิจจีนยังอ่อนแอ รัฐเตรียมปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ วานนี้จีนประกาศตัวเลขการค้าหดตัวตามคาด โดยการส่งออก และนำเข้าเดือน ส.ค. หดตัวลง 6.1% และ 14.3% ส่วนตัวเลขการค้ารวมลดลง 9.7% บ่งชี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงชะลอตัวต่อเนื่อง ด้านรัฐบาลจีนปิดเผยว่า จีนเตรียมปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจ (SOE) รวมถึงควบรวมและปรับโครงสร้างธุรกิจบางส่วน พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนภาคเอกชนสามารถเข้ามาลงทุนในรัฐวิสาหกิจจีนเพื่อแข่งขันในตลาด

ปัจจัยในประเทศ

ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือ SME ตามคาด โดยมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ประกอบด้วย มาตรการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยให้ธนาคารออมสินเป็นแกนนำร่วมกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 4%, รวมทั้งมาตรการภาษี ซึ่งจะลดหย่อนภาษี ให้กับ SME ที่มีกำไรในส่วนที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เหลือ 10% ใน 3 ปีบัญชี พร้อมเตรียมเม็ดเงินจากธนาคารของรัฐรวม 6,000 ล้านบาทตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือฐานทุนให้กับ SME เน้นรายใหม่

สัญญาณทางเทคนิค : ดัชนีผันผวนมากยิ่งขึ้น แต่การเคลื่อนไหวยังอยู่ในกรอบขาลง จึงยังมีโอกาสของการกลับมาสู่รอบของการปรับฐานอีกครั้งหนึ่ง โดยจะมีแนวรับที่บริเวณ 1355 จุด และถัดไปที่บริเวณจุดต่ำเดิม 1300/1292 จุด ตามลำดับ ส่วนระยะสั้นอาจเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1384/1400 จุดได้