'Wealth Dynamics' รู้ตัวตน เพิ่มแต้มต่อ SME

“Wealth Dynamics” คือ เครื่องมือวิเคราะห์ตัวตนของบุคคล ที่จะช่วยให้เอสเอ็มอี “เล่นถูกเกม” พร้อมชนะในทุกสนามรบ
ได้คนเก่งมาทำงาน แต่อยู่ไม่นานก็ออก เพราะคนชอบอย่างหนึ่ง แต่จับไปนั่งทำอีกอย่างก็ไม่สนองใจเขา ทำไปฝืนๆ ก็ไม่สร้างมูลค่าอะไรให้องค์กร เป็นเถ้าแก่ที่ชอบควบคุม ช่างวิเคราะห์ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่อยากจะไปสวมบทนักสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรมคูลๆ กับเขาบ้าง ทว่าเล่นผิดเกม สุดท้ายเลย “จบเกม” ตั้งแต่เริ่มเล่น
แม้แต่วันส่งมอบธุรกิจให้ทายาท แต่พ่อลูกต่างกันสุดขั้ว เลยไม่เข้าใจกัน สรุปลงเอยที่ “ความขัดแย้ง”
นี่คือตัวอย่างสถานการณ์ช้ำๆ ที่ล้วนเกิดจากปัญหาเรื่อง “คน” ทั้งที่เป็น เจ้าของกิจการ ลูกน้อง ลูกค้า หรือแม้แต่ทายาทที่ต้องมาสานต่อธุรกิจ โจทย์ตัวเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอี ตั้งแต่ วันเริ่มก่อตั้ง ออกเดินทางสร้างการเติบโต จนถึงวันที่ต้องส่งมอบกิจการต่อให้ทายาท
ปัญหาสุดคลาสสิก นำมาสู่เครื่องมือที่ชื่อ “Wealth Dynamics” ศาสตร์วิเคราะห์ตัวตนของบุคคล ซึ่งคิดค้นโดย “โรเจอร์ส เจมส์ แฮมมิลตัน” นักชี้กระแสธุรกิจเพื่อสังคมระดับโลก และผู้ก่อตั้ง Entrepreneurs Institute คนต้นติด หลักสูตร Wealth Dynamics และ Talent Dynamics ที่มีผู้ประกอบการทั่วโลกนำไปใช้แล้วกว่า 250,000 คน
“Wealth Dynamics คือ เส้นทางพัฒนาความมั่งคั่งของผู้ประกอบการ”
“พอล - ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์” Global Partner และผู้เผยแพร่ Wealth Dynamics แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นิยามสั้นๆ อธิบายความเป็น Wealth Dynamics ที่เขาว่า จะช่วยให้เอสเอ็มอีได้เข้าใจบทบาทที่ถูกต้องของตัวเอง รู้ศักยภาพของคน เพื่อดึงความสามารถที่เป็นธรรมชาติของแต่ละคนมาพัฒนาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ลดความขัดแย้งในวิธีคิดและการทำงาน สามารถส่งมอบกิจการจากรุ่นสู่รุ่นได้ เพื่อนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จและยั่งยืน
“เงิน ไม่ได้ทำเงินด้วยตัวเอง คนต่างหากที่เป็นตัวทำเงิน ฉะนั้นแล้วการทำธุรกิจทุกอย่างต้องใช้คน และเกี่ยวข้องกับคน ตั้งแต่เริ่มสร้าง ออกเดินทาง และส่งมอบกิจการ”
เขาย้ำความสำคัญที่เตือนให้เอสเอ็มอี หันกลับมาทำความเข้าใจกับคน แม้แต่ตัวตนของเจ้าของกิจการ ด้วยเครื่องมือทดสอบ ที่ไม่ได้วัดทักษะ ไอคิว หรืออีคิว ที่คุ้นเคยกัน แต่เริ่มจาก “วัดความชอบ” ซึ่งจะตอบทุกอย่างในชีวิตคนๆ นั้น
“เราเชื่อว่า ทักษะ พัฒนาได้ แต่ความเป็นตัวคุณ ความชอบของคุณ มันเปลี่ยนแปลงยาก”
เขาสะท้อนความสำคัญของการได้รู้จัก “ตัวตน” ที่แท้จริงของใครสักคน ไม่ใช่แค่ทักษะ ความสามารถ หรือบุคลิกฉาบฉวยที่มองเห็นแต่เพียงภายนอก เพื่อที่จะจับคนให้ถูกกับงาน กับตำแหน่ง แม้แต่เถ้าแก่เองก็จะได้รู้ว่า ตนเองเป็นคนแบบไหน ต้องสวมบทบาทอย่างไรในเกมธุรกิจ เพื่อที่จะชนะในเกมนี้
“เป็นปลาดี แต่อยู่ผิดน้ำ หรือเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี แต่อยู่ผิดดิน ก็งอกงามไม่ได้” เขาย้ำ
แล้วทำอย่างไรถึงจะได้รู้จัก “ตัวตน” ของใครสักคน เขาบอกวิธีการที่เริ่มจากจับคนมาทำแบบทดสอบ 25 ข้อ ผลจากคำตอบจะแปรค่าออกมาเป็นกราฟ เพื่ออธิบายตัวตนของใครคนนั้น ซึ่งแบ่งได้เป็น 8 คาแรคเตอร์
ตั้งแต่ “Creator” นักประดิษฐ์ มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นนักคิด คิดเร็ว คิดแต่ของใหม่ๆ และมีจินตนาการสูง เขายกตัวอย่าง สตีฟ จอบส์ , บิล เกตส์ และ ริชาร์ด แบรนสัน ก็อยู่ในกลุ่มนี้ กลุ่มต่อมาเรียก “Star” นักประชาสัมพันธ์ ที่สร้างความสัมพันธ์ได้รวดเร็ว คนกลุ่มนี้จะชอบสื่อสารกับคนหมู่มาก มีทัศนคติเป็นบวก จับเทรนด์อะไรได้เร็ว เหมาะกับอาชีพพวก ผู้ประกาศข่าว นักแสดง แบรนด์เมเนเจอร์ หรือนักสื่อสาร เป็นต้น
ต่อมาคือ “Supporter” กลุ่มที่เป็นผู้นำ นักบริหาร ชอบสร้างความสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่น และสนุกกับทีม คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ พูดอะไรน่าเชื่อถือ มักได้ความเคารพจากคนรอบข้าง ต่อกันที่ “Deal Maker” นักเจรจา ผู้ชอบฟังความเห็นคนอื่น รักการเจรจารอง ถนัดสื่อสารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เขายกตัวอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ฝีปากกล้า หรืออย่าง “เอ ศุภชัย” ผู้จัดการดาราชื่อดัง ก็เข้าข่าย ที่ใช้การเจรจาต่อรองสร้างความมั่งคั่ง
ตามด้วย “Trader” กลุ่มพ่อค้า กลุ่มนี้มีความชัดเจนว่าอะไรคือ “สมเหตุสมผล” ตรงประเด็น ชอบเก็บข้อมูล และช่างเปรียบเทียบ ต่อรองเป็น แต่ไม่ชอบเจอคนมากๆ อาชีพที่เหมาะก็อย่าง ฝ่ายจัดซื้อ นักขายประเภทเจอลูกค้าจำนวนเล็กๆ แต่ขายได้จำนวนรายมากๆ ถ้าวิธีในการทำธุรกิจ คนกลุ่มนี้จะเลือกทำร้านค้าปลีกที่มีจำนวนสาขาเยอะๆ ทว่าถ้าเป็นประเภท Deal Maker จะไม่มีหน้าร้านเยอะ แต่ใช้วิธีส่งให้คนอื่นไปจัดจำหน่ายต่อแทน เป็นต้น
ต่อมาเรียกว่า “Accumulator” กลุ่มนักสะสม ช่างจัดการ ตรงต่อเวลา เชื่อถือได้ เป็นกลุ่มที่กลัวความเสี่ยง ให้ความสำคัญกับข้อมูล คนประเภทนี้ มีความอดทนสูง ชอบลงทุนระยะยาว เหมาะกับพวกทำวิจัยการตลาด ฝ่ายวิจัยและพัฒนา เวลาทำอะไรจะเริ่มช้า แต่ถ้าเริ่มแล้วสำเร็จแน่นอน ตัวอย่าง วอร์เร็น บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อก้องโลก
ต่อกันที่ “Lord” หรือ ผู้ถือสิทธิ กลุ่มนี้สามารถบริหารจัดการได้ดี ช่างวิเคราะห์ ชอบการควบคุม ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ชอบทำอะไรที่อยู่ในโพรเซส ไม่แหกกฎ ตำแหน่งในองค์กร ก็ประเภท นักบัญชี ปิดท้ายกับ “Mechanic” กลุ่มนายช่าง เก่งเรื่องจัดการงานให้สำเร็จ ชอบความสมบูรณ์แบบ ชอบสร้างระบบ และอยู่เฉยไม่ได้ เขายกตัวอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่สะท้อนได้ชัดถึงความเป็น Mechanic
รู้จักคนแต่ละกลุ่มแล้วนำมาใช้อย่างไรได้ เขายกตัวอย่าง ครอบครัวธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลงแล้ว ต้องเน้นช่องทางจำหน่ายเยอะๆ บริการดี แต่มีมาร์จิ้นน้อย ธุรกิจนี้เป็นของพี่น้องที่อยู่กันคนละขั้ว คนพี่เป็น Lord ชอบควบคุม ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ส่วนคนน้องเอียงมาทาง Creator และ Star ชอบความแปลกใหม่ ตื่นเต้น สนุกสนาน ทว่าถ้าผู้นำยังไม่เข้าใจกัน ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ นั่นคือที่มาของการเข้ามาใช้บริการศาสตร์วิเคราะห์ตัวตน จนได้เข้าใจกัน เลยนำมาสู่การวางผังองค์กรใหม่ โดยการที่คนพี่เริ่มปล่อยมือ มาดูภาพใหญ่ แล้วปล่อยธุรกิจเป็นยุคของน้อง ผลคือ จากเดิมที่เคยทำโปรโมชั่นให้กับลูกค้าใช้เวลา 3-4 อาทิตย์ แต่เดี๋ยวนี้แค่ 1-2 วัน งานก็จบแล้ว ปลดล็อกอุปสรรคธุรกิจได้ แถมในอีก 2 ปี ข้างหน้า ก็วางแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย
การรู้จักตัวตนไม่ใช่แค่ทำให้เราใช้คนให้เป็น แต่สิ่งสำคัญคือ การรู้จักตัวเอง เพื่อเล่นเกมให้ถูก “ณัฐศิษฏ” ยกตัวอย่าง เพื่อนที่เป็น Star มีไร่ชาอยู่ปากช่อง แต่อยากไปเล่นเกม Creator คือ ไปตั้งโรงงาน พัฒนาสูตรชานั่นนี่ ปรากฏใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าจะออกผลิตภัณฑ์ได้ แต่พอเปลี่ยนบท โดยหาคนมาพัฒนาแทน แล้วไปใช้ทักษะ Star ที่ถนัด คือการขาย การโปรโมทสินค้า ปรากฏจาก 2 ปี มาใช้เวลาแค่ 2 เดือน ในการออกสินค้าใหม่ และประสบความสำเร็จในธุรกิจได้
“ความสำเร็จมาจากการรู้ว่าเกมไหนที่เหมาะกับเรา และเล่นเกมนั้นอย่างเต็มที่ ธุรกิจถึงจะเติบโตไปได้” เขาย้ำ
อัตราค่าบริการ Wealth Dynamics ที่จัดเป็นสัมมนา 1 วัน คิดหัวละ 3,950 บาท กับหลักสูตร Talent Dynamics สำหรับลูกค้าองค์กร คิดค่าบริการ หัวละ 6,900 บาท ใช้เวลาอบรม 2 วัน ขั้นต่ำ 10 คน ขึ้นไป โดยการให้บริการครอบคลุมถึงการเขียนแผนธุรกิจโดยวิเคราะห์จากฤดูกาล ทีมงาน และเจ้าของ ขึ้นกับความต้องการแต่ละองค์กร
เป้าหมายต่อไปไม่ได้มองแค่ตลาดไทย คนทำบอกเราว่า เห็นโอกาสที่จะขยายไปในอาเซียน เนื่องจากยังไม่มีคนให้บริการในด้านนี้ เขาว่า ไม่ว่าจะประเทศไหนในโลก ตราบใดที่ต้องใช้คน Wealth Dynamics ยังมีโอกาสเสมอ
ที่กล้าฝันใหญ่และมั่นใจขึ้น ก็เขาว่า วันนี้ “เล่นถูกเกม” แล้ว
.........................................
Key to success
วิเคราะห์ตัวตน สร้างความมั่งคั่ง
๐ รู้บทบาทตัวเอง เล่นเกมให้ถูก
๐ รู้ศักยภาพคน พัฒนาได้ถูกต้อง เหมาะสม
๐ ลดความขัดแย้งในวิธีคิดและการทำงาน
๐ ลดปัญหาในการส่งมอบกิจการ
๐ ทักษะพัฒนาได้ แต่ความเป็นตัวตนเปลี่ยนยาก







