'ประยุทธ์'ชี้รัฐบาลอัดเม็ดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน

'ประยุทธ์'ชี้รัฐบาลอัดเม็ดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน

“ประยุทธ์”ชี้รัฐบาลอัดเม็ดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน หวังช่วยวางรากฐานให้ชุมชนเข็มแข็ง ระบุโครงการนี้ไม่โครงการประชานิยม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯกล่าวในรายการคืนความสุขว่า ว่า การที่ประเทศของเราเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกันได้นั้น ที่ตนเคยพูดไว้ว่า Our Home Our Country Stronger Together นั้น เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ของพี่น้องประชาชนนั้น เป็นเรื่องของเศรษฐกิจด้วย นอกจากความมั่นคงแล้ว ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน ทุกอย่างมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ในการขับเคลื่อนประเทศ สัปดาห์นี้้ รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะเร่งด่วน เพื่อจะช่วยเหลือบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชน ผู้มีรายได้น้อย ในทุกพื้นที่ ให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน มีโครงการที่เป็นประโยชน์ และตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในชุมชน อย่างแท้จริง เราต้องการให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่ เพื่อจะช่วยวางรากฐานให้ชุมชนเข้มแข็ง มาตรการดังกล่าวนั้นจะครอบคลุมท้องถิ่น ทั้งในระดับหมู่บ้านตำบล ในหมู่บ้านนั้นได้มีการจัดสรรเงินกู้ ให้กับกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ในเกณฑ์ระดับ A และ B คือมีผลประกอบการที่ดี ดีมาก ดี กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีแรกนั้น จะปลอดภาระดอกเบี้ย เพื่อให้พี่น้องประชาชน ไม่ต้องกังวล ในการจ่ายคืนหนี้ในช่วงแรก ที่นำเงินไปลงทุน อย่าไปใช้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ไว้วางใจ จากสังคมโดยรวมว่าไปใช้ซื้อในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ คณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะว่าเป็นเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่ต้องให้ประชาชนนั้นมีส่วนร่วม หรือเป็นผู้หนึ่งในการใช้จ่ายเงิน สอนให้มีความเข้มแข็ง ในการจัดระบบในเรื่องของดูแลประชาชนด้วยกันเอง นี่แหละคือสิ่งที่เป็นพื้นฐานแรกของการกระจายอำนาจ แต่จะต้องไม่ทุจริต ไม่นำไปแจกให้กับหัวคะแนน ให้หัวคะแนนนั้นไปแจกให้สมาชิกที่เป็นพวก ถ้าไม่ใช่กลุ่มนี้ พรรคนี้ก็ไม่ได้ นี่แหละคือปัญหา ผมไม่ด้ไปว่าประชานิยมอะไรทั้งสิ้นนะ แต่ถ้าประชาชนมีปัญหาเหล่านี้ ตนก็ไม่ทำ 

"อันนี้เป็นเรื่องของการที่ทำเพื่อให้ประชาชนได้มีเงิน มีใช้ ใช้สอยได้พอสมควรในช่วงนี้ ซึ่งมีรายได้น้อย ไม่ใช่ประชานิยมเพราะผมไม่ต้องการให้ท่านมาชอบผม ผมต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้านะครับ ถ้ามีเม็ดเงินตรงนี้ มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ภาคการผลิต เขาก็สามารถจะผลิตของมาขายได้ ถ้าผลิตมาแล้วไม่มีคนซื้อมันก็พังตามกันไปอีกนะ เพราะง้นรัฐบาลก็จะมีกลไกในการตรวจสอบ จะไม่ปล่อยปละละเลยเหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมาในห้วงก่อนหน้า เราเข้ามานี่นะ เพราะงั้นจะทำให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะงั้นใครที่ออกมาพูดตามสื่อ ตามอะไรต่างๆ เหล่านี้ ไปดูซิว่าละเอียด ท่านทำอะไรไว้ยังไง " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราก็ต้องมาแก้ไขทั้งหมด สำหรับกองทุนหมู่บ้านในระดับ C และ D นั้น ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าได้มีมาตรการในการเข้าไป ฟื้นฟูอยู่แล้ว ได้มีการเน้นกันไว้แล้ว ตั้งแต่ ครม. ชุดที่แล้วนี้นะครับ ก็จะนำมาใช้จ่ายให้สามารถที่จะทั่วถึง คือตอนแรกนี่คิดแต่จะให้กองทุนที่ดี แล้วที่ไม่ได้ ที่ฟื้นฟูผมว่าไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะงั้นต้องฟื้นฟูเขาให้ได้นะครับ เดี๋ยวจะให้ทั้งคสช. ให้มหาดไทย เข้าไปดูแลคณะกรรมการด้วยเพราะฉะนั้นอย่าทำทุจริตโดยเด็ดขาด ตนไม่ต้องการให้มีผลกระทบทางด้านการเมือง ในเรื่องคะแนนเสียงต่างๆ ทั้งสิ้น ในช่วงนี้ ในส่วนของกองทุนหมู่บ้านนี้ผมถือว่าเป็นเม็ดเงินที่จะถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง แล้วประชาชนเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ช่วงนี้จะต้องมีคนเข้าไปดูแลนะครับ ที่ผ่านมาก็มีกฎหมายบอยู่แล้ว ให้เขาทำเองได้ อะไรได้ แต่ก็ปรากฎอาจจะมีคนบางคน หรือบางพวกไปทำให้เกิดความใม่เป็นระเบียบ ไม่เกิดความเป็นธรรม ทั่วถึงทำนองในระดับตำบลนั้น เราก็เพิ่มงบประมาณลงไปอีกก้อนหนึ่ง ทุกตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท อันนี้ก็เพื่อต้องการให้เกิดการกิจกรรมหมุนเวียนในท้องถิ่น ที่ผ่านมาเราเคยให้ไปแล้วในตำบลที่แล้งซ้ำซาก ตำบลละ 1 ล้าน ก็ปรากฎว่าประชาชนก็เสนอมาว่าไม่เคยได้รับเงินอย่างนี้มาก่อน ก็คือเขาเอาไปลงทุนทำโน่นทำนี่ ขุดบ่อน้ำ ซ่อมแซมถนน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างลานมัน สร้าง จัดหาเครื่องมือ เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก อะไรก็แล้วแต่ ตนถือว่าเป็นการลงถึงมือเขา แล้วเขาเป็นคนกำหนดโครงการเองนะครับ แต่เราต้องไปดูเช่นกัน ทั้ง คสช. มหาดไทย กระทรวงเกษตร ต่างๆ ต้องไปเดินดูทั้งหมด 

" ขอร้องเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย ถ้าหากตรวจพบการทุจิตตรงใดก็ตาม ให้รีบแจ้งมา เพราะงั้นคนทำก็ไม่ต้องกลัวทุจริต ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับนี่ จับโน่น ถ้าตั้งใจดีแล้ว ได้เงินไป คิดว่าจะทำยังไงให้คนอื่น อย่างที่ผมเคยพูดมาแล้วนี่ มันไม่มีเรื่องหรอก หลายคนก็บ่นมาว่าเอ๊ วันนี้รัฐบาลเข้มงวด คตร. คสช. อะไรต่างๆ ไปเข้มงวดเรื่องการทำแผนงานโครงการ ก็ทำให้มันถูกต้องแล้วจะไปกลัวอะไรเล่า ไอ้ที่มันกลัว เพราะทำไม่ถูกต้อง หรือไม่มีความรู้อย่างแท้จริง เพราะงั้นท่านก็ไปเรงมาซิ ทำยังไงถึงจ่ายงบประมาณได้ แล้วช่วยรัฐบาล ช่วยประชาชนของท่านไม่ใช่กลัวแต่ว่าจะถูกจับ ถูกจับ ก็ท่านทำผิด ก็ต้องถูกจับอยู่ดีนี่ เพราะงั้นผมต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น อย่างเท่าเทียมนะครับ อย่าให้ใครเขามาว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตนักการเมืองอะไรก็แล้วแต่ ชอบมาพูดทำนองว่าตอนนี้งบประมาณช้าเพราะว่าข้าราชการไม่กล้าทำ เพราะเราไปตรวจสอบ แล้วผิดตรงไหน ถ้าตรวจสอบ ผิดตรงไหน หรือจะต้องไม่ตรวจสอบ ผมไม่รู้นะ ทีนี้เมื่อไปตรวจสอบผมก็ใช้สติปัญญาของผมนะ ก็สั่งการไปแล้วว่า โครงการนี่ไม่ได้ตรวจทุกโครงการหรอก บางโครงการเขาก็มีเจ้าหน้าที่เขาทำอยู่แล้ว แต่บางโครงการที่มีความล่อแหลม ก็จะลงไปตรวจสอบ แล้วก็ถ้าพบการกระทำความผิดก็หยุด ไม่ให้ทำเอามาดำเนิน คดี แล้วโครงการนั้นก็ไปหาทางทำต่อให้ได้ นั่นแหละคือวิธีการที่ผมทำอยู่ในเวลานี้ ผมไม่เห็นมันจะผิดตรงไหนนะ เว้นเสียแต่ว่าต้องการเอาเงินออก แล้วใครทุจริตอะไรก็ว่ากันไปงั้นเหรอ นะ คนพูดระวังตัวไว้แล้วกัน " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกฯ กล่าวต่อว่าอีกว่า ในเรื่องของการเร่งการส่งเสริมการลงทุนขนาดเล็ก อาทิเช่นการซ่อมสร้างเล็กๆน้อยๆ ซ่อมโรงเรียน ซ่อมอาคารราชการ ทาสีอะไรเหล่านี้ ก็ต้องการที่จะให้มีเม็ดเงินลงไป เกิดการจ้างงานให้มากขึ้น สามารถเบิกจ่ายได้รวดเร็ว มีการแก้ไขกฎระเบียบ ให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ติดขัด บางอย่างก็มีการผ่อนผันมีการชะลออยู่แล้ว ขอร้องอย่างเดียว อย่าทุจริตกันนะ ต้องเสริมสร้างทั้งสองอย่าง ใช้กฎหมาย ใช้การปลูกจิตสำนึก ใช้ความมีอุดมการ ที่จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ทุกคนคิดแบบนี้ได้นะ ผมก็เบาแรงนะ ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องมาพูดมากขนาดนี้หรอก เราต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปทั่วทุกภูมิภาคไปพร้อมๆ กัน ให้มีการกระจายการลงทุนไปสู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะเร่งด่วน ที่ทุกคนมีความลำบากในขณะนี้ จากภายในประเทศ แล้วก็จะได้มีการ ลดผลกระทบจากภายนอกด้วย ขณะเดียวกัน เราก็ต้องสร้างความเข้มแข็งไปด้วยนะ ไม่ใช่ว่าทำตรงนี้อย่างเดียว อย่างอื่นเราก็ทำด้วย สร้างความเข้มแข็งเพื่มการลงทุนทั้งในประเทศ ต่างประเทศนะ แล้วก็ในเรื่องของการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในเรื่องของการค้าชายแดน ทุกอย่างเป็นระบบหมด ที่ผ่านมาทำเป็นระบบอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำระบบอย่างนี้ อย่ามาต่อว่าผม อย่ามาพูดตามสื่อนะ ผมรับไม่ค่อยได้ เพราะงั้นทุกอันต้องมีความโปร่งใส คุ้มค่า 

"หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นประชานิยม ก็คือทำให้ประชาชนนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ผู้ทำไม่ได้ประโยชน์ ถ้าจะทำเหมือนที่ผมกำลังพยายามทำเวลานี้ เพราะงั้นไปทบทวนดูของตัวเองดูซิว่ามีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง วันนี้กองทุนหมู่บ้าน 7 หมื่นกว่ากองทุนนี่ ก็ใช้ได้ประมาณสัก 2 ใน 3 นะ ที่เหลืออีก 1 ใน 3 ก็เป็นในส่วนของที่พอใช้ได้แล้วก็ยังใช้ไม่ได้ แล้วก็ใช้ไม่ได้เลย นี่แหละครับ นี่คือการทำประชานิยมสมัยก่อนนี้ เพราะงันวันนี้เราทำคล้ายๆ กัน แต่เราต้องไปเข้มงวดดูแลข้างล่าง สร้างจิตสำนึก แล้วก็ไม่ให้ทำเองในส่วนที่ยังไม่เรียบร้อยนี่นะ จะให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลด้วยนะ รัฐบาลได้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอยู่แล้วนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีการใช้จ่ายไปในงวดที่สองนี้ ในการช่วยเหลือประชาชนในการลงทุน เราก็ควบคุมให้อยู่ภายใต้ระบบระเบียบของวินัยการคลัง ว่าทำยังไงหนี้สาธารณะไม่เกิน ต้องไปดูซิว่า หนี้สาธารณะมันเกิน ที่ผ่านมาแล้วนี่ เป็นหนี้สาธารณะจากเรื่องอะไรบ้าง ถ้าเรื่องที่เป็น มีอะไร เขาเรียกอะไร สร้างทรัพย์สินที่มีมูลค่า เป็นหนี้ที่มีมูลค่านะครับ เช่นสร้างรถไฟ สร้างรถไฟฟ้า อะไรเหล่านี้ มันเป็นก่อให้เกิดรายได้ทั้งสิ้น เป็นหนี้ไปใช้หนี้ที่อะไร มีความเสียหาย อีกหลาย ประมาณเยอะเจ็ดแสน แปดแสน ล้าน ทั้งหมด ทั้งระบบนะครับ อีกหลายเรื่องด้วย กำลังดำเนินการอยู่ นี่แหละทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น โดยที่ไม่มีรายได้เกิดขึ้นในอนาคต ที่เราทำขณะนี้ จะต้องมีรายได้เกิดขึ้นในอนาคต เว้นเสียแต่ว่าในส่วนที่ให้แก่ประชาชนนั้น ประชาชนก็ต้องเข้มแข็งขึ้น มีขีดความสามาถในการแข่งขันมากขึ้น ถ้าไม่คิดเป็นระบบแบบนี้มันไปไม่ได้หรอกครับประเทศ จะไปมุ่งหวังการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้ " นายกฯ กล่าว