เผยข้าวสตอกรัฐกว่า1ล้านกระสอบเสื่อมคุณภาพ

เผยข้าวสตอกรัฐกว่า1ล้านกระสอบเสื่อมคุณภาพ

กระทรวงพาณิชย์ เผย ข้าวสตอกรัฐกว่า 1 ล้านกระสอบ เสื่อมคุณภาพเป็นส่วนใหญ่ ชี้ไม่เหมาะนำมาคัดแยกประมูล

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบคลังข้าวเกรด C และข้าวเสีย ที่คลังสินค้ากลางอรุณศิลป์และคลังมหาทรัพย์ฟิตในเขตจังหวัดนครปฐม ว่า โดยทั้ง 2 คลังดังกล่าวเก็บฝากข้าวสตอกรัฐบาลของปี 55/56 จำนวน 105,000 ตันหรือคิดเป็นกระสอบจำนวน 1,005,000 กระสอบ จากจำนวนข้าวเกรดซีและเสื่อมคุณภาพกว่า 6 ล้านตัน เพื่อต้องตรวจเช็คและให้ประชาชนทั่วประเทศได้เห็นและรับทราบข้อมูล โดยจำนวนข้าวเกรดซีและข้าวเสื่อมคุณภาพนี้ไม่เหมาะที่จะนำมาแยกประเภทหรือคัดประมูลตามเกรดอีกแล้วและเห็นว่าน่าจะนำไปประมูลยกคลังในเชิงอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจ จึงได้เชิญ 25 หน่วยงาน จากคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานวิชาการอิสระ และหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องข้าว เช่น สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ( TDRI ) / สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) / กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และสมาคมผู้ส่งออกข่าวไทย เข้าร่วมสังเกตุการณ์ โดยมีบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือ เซอเวเยอร์กลางที่มีมาตรฐาน เข้าดำเนินการตรวจสอบคัดแยก ข้าวเกรดซี และข้าวเสียในสตอกของรัฐ ยอมรับว่าการคัดแยกข้าวก่อนเปิดประมูลแบบยกคลังเพื่อต้องการเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ เช่น ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการคัดแยกข้าว การจัดระบบบริหารการระบาย และการควบคุมการรั่วไหลของข้าว รวมไปถึงข้อจำกัดต่างๆ หลังจากก่อนหน้านี้หลายฝ่ายมีความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการระบายแบบยกคลัง และการคัดแยกข้าวก่อนนำมาประมูล ว่าแนวทางใดจะมีความเหมาะสมและก่อประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นการแยกคุณภาพข้าวในแต่ละกองเป็นรายกระสอบ พบว่า มีต้นทุนในการคัดแยก จากค่าแรง กระสอบละ 12 บาท และค่าเซอร์เวย์เยอร์ในการตรวจคุณภาพข้าว วันละ 12,000 บาท ต่อ 1 สาย ทำให้การคัดแยกมีต้นทุนตกอยู่ที่กระสอบละ 16 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าดำเนินการอื่นๆ รวมถึงการจัดส่ง คาดว่าอาจจะไม่คุ้มค่ากับการคัดแยกข้าวที่ยังมีคุณภาพดี ออกจากข้าวเสีย นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลา ในการตรวจสอบข้าวเหล่านี้ เป็นเวลาแรมเดือนหรือกว่าจะหมดทุกโกดังใช้เวลาเป็นปี

ดังนั้นในการตรวจแยกคุณภาพข้าวในลักษณะดังกล่าว จึงมีปัญหาเรื่องของจำนวนแรงงานที่จะขนข้าว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าว ตลอดจน สภาพอากาศ และแสงสว่าง รวมถึงพื้นที่ของแต่ละโกดัง ตลอดจนงบประมาณของทางรัฐที่จะเข้ามาจัดการในการคัดแยก ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ทำได้ไม่ทุกคลัง และจะนำเสนอผลตรวจสอบนี้เสนอต่ออนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ก่อนนำเสนอที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว หรือ นบข.พิจารณาในวันที่ 9 กันยายน นี้ เพื่อให้ได้วิธีระบายที่มีความคุ้มค่า และรอบคอบมากที่สุด โดยตัวเลขปริมาณข้าวที่จะระบายสู่ภาคอุตสาหกรรม 5.89 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเกรดซี 4.6 ล้านตัน และข้าวเสีย 1.29 ล้านตัน และข้าวที่ระหว่างดำเนินคดีอีก 7 หมื่นตันเป็นต้น