วอนรัฐทำฝนหลวงช่วยชาวไร่ ก่อนแห้งตายกว่า60,000ไร่

วอนรัฐทำฝนหลวงช่วยชาวไร่ ก่อนแห้งตายกว่า60,000ไร่

ผู้นำชุมชน วอนรัฐทำฝนหลวง ช่วยเกษตรกร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง สับปะรด ก่อนแห้งตายกว่า 60,000 ไร่ โอดภัยแล้งปีนี้หนักสุดรอบหลายปี

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 1 กันยายน 2558 นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า อบต.หลุมรังมีทั้งหมด 18 หมู่บ้าน กว่า 2,000 ครัวเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือทำไร่การเกษตร เช่นไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และไร่สับปะรด มีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 60,000 ไร่

ปัจจุบันพืชเกษตรกำลังทยอยแห้งตาย สาเหตุเกิดจากการขาดแคลนน้ำ เพราะในพื้นที่ฝนไม่ตกลงมาติดต่อกันนายหลายเดือน ทำให้ชาวบ้านที่มีอาชีพปลูกพืชไร่เหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางวันท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายกับว่าฝนกำลังจะตกลงมา ชาวบ้านก็ได้แต่ภาวนาขอให้ฝนตก แต่สุดท้ายก้อนเมฆก็จางหายไป หรือตกลงมาบ้าน แต่เพียงเล็กน้อย ผิวดินไม่เปียกเสียด้วยซ้ำ

นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลุมรัง กล่าวว่า สิ่งที่ตนและชาวบ้านต้องการและพอที่จะมีความหวังก็คือ ขอให้จังหวัดกาญจนบุรี ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ฝนหลวง ให้มาสำรวจพื้นที่และวางแผนในการทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านบ้าง เพราะหากภัยแล้งยังวิกฤติอยู่อย่างนี้ เชื่อว่า ชาวบ้านที่กู้เงินมาลงทุนในการปลูกพืชไร่ จะต้องได้รับความเดือดร้อนยิ่งๆขึ้นไปอย่างแน่นอน และจะส่งผลกระทบต่อแหล่งเงินกู้ เพราะชาวบ้านคงไม่มีปัญญาที่จะหาเงินไปใช้หนี้ได้ นอกจากไปกู้เงินนอกระบบมา

“อนาคตข้างหน้าอาจจะต้องทิ้งไร่ไปหางานทำในกรุงเทพฯหรือจังหวัดใกล้เคียงก็เป็นได้ หรือไม่ที่ดินที่ชาวบ้านมีอยู่จำเป็นจะต้องขายเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ สุดท้ายที่ดินก็ตกไปอยู่กับนายทุน และต้องมาเช่าต่อจากนายทุนไปทำไร่ในภายหลัง ดังนั้นการทำฝนหลวงจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ” นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลุมรัง กล่าว