นักวิเคราะห์มองประท้วงเสื้อเหลืองไม่สะเทือนเก้าอี้'นาจิบ'

นักวิเคราะห์มองประท้วงเสื้อเหลืองไม่สะเทือนเก้าอี้'นาจิบ'

นักวิเคราะห์มองการประท้วง "เบอร์เซะห์" ไม่สั่นคลอนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค

การประท้วงใหญ่ขับไล่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มแรงกดดันให้กับนายนาจิบที่กำลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต แต่บรรดานักวิเคราะห์กลับมองว่า กระแสต่อต้านครั้งนี้ไม่น่าจะสั่นคลอนเก้าอี้ของเขาได้ในทันที

ผู้นำมาเลเซียวัย 61 ปีถูกหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลกล่าวหาว่ายักยอกเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์จากกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย หรือ “วันเอ็มดีบี” เมื่อปี 2556 แต่นายนาจิบบอกว่าข้อกล่าวหานี้มุ่งดิสเครดิตเขาเพื่อหวังผลทางการเมือง ขณะที่คนในรัฐบาลอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินบริจาคจากตะวันออกกลางโดยผู้บริจาคนิรนาม

นายเจมส์ ชิน ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียของมหาวิทยาลัยแทสมาเนียในออสเตรเลียกล่าวว่า การประท้วงของกลุ่มเบอร์เซะห์พยายามจะกดดันให้นายนาจิบลาออกจากตำแหน่ง แต่โชคร้ายที่เขายังอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง หากดูจำนวนผู้ร่วมชุมนุมครั้งนี้ซึ่งตำรวจคาดว่ามีทั้งหมดราว 25,000 คนพบว่ามีคนเชื้อสายมาเลย์ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าร่วมน้อยกว่าการประท้วงครั้งก่อนๆ มาก โดยส่วนใหญ่มาจากชุมชนเชื้อสายจีนและอินเดีย

นอกจากนี้ นายชินยังมองว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของนายนาจิบอาจเป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองของเขา ซึ่งหากเศรษฐกิจดีและค่าเงินริงกิตฟื้นตัว เขาก็จะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น แต่หากเงินริงกิตร่วงเหลือ 4.6-4.7 ริงกิตต่อดอลลาร์ นายนาจิบก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลาออก

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ค่าเงินริงกิตอ่อนค่าลง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และเป็นค่าเงินที่มีสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดในเอเชียในปีนี้ ผลจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความวุ่นวายทางการเมืองในมาเลเซีย