ไม่เชื่อ'วรรณา-สามี'อยู่ตุรกี ชี้พยานเห็นอยู่ไทยช่วงกลางสค.

ไม่เชื่อ'วรรณา-สามี'อยู่ตุรกี ชี้พยานเห็นอยู่ไทยช่วงกลางสค.

คืบหน้า!ญาติ"วรรณา"เผยอยู่ตุรกีกับสามี ยันไม่เอี่ยวบึ้ม หลังออกหมายจับเพิ่ม เผยชุดสืบสวนยังไม่เชื่ออยู่ตุรกี เข้า-ออกนอพาร์ทเม้นท์10-20ส.ค.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ล่าสุด ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีการอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้ต้องหาตามภาพสเก็ตช์ โดยเป็นชายที่อยู่ห้องพักอาศัย ในอพาร์ตเมนต์ย่านมีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานที่เป็นปุ่ยยูเรีย และดินเทา

โดยสามารถใช้ประกอบเป็นระเบิดได้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างขอหมายจับอีกหลายราย ทั้งนี้ มั่นใจว่า แนวทางสืบสวนสอบสวนมาถูกทางแล้ว ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่ถูกจับกุมได้ย่านหนองจอก ขณะนี้มีชัดเจนแล้ว ว่า เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร แต่ยังไม่ทราบสัญชาติที่ชัดเจน ขณะเดียวกันสามารถรู้กลุ่มคนร้าย และรู้ว่าในกลุ่มมีใครบ้าง แต่เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ใช้ชื่อปลอม จึงต้องเร่งติดตามพิสูจน์ให้รู้ ชื่อนามสกุลที่แท้จริง 

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องมีต้องตรวจค้นดำเนินการทุก 2 - 3 เดือน พร้อมขอความร่วมมือเจ้าของอพาร์ตเมนต์ หอพัก ที่พบมีผู้พักอาศัยลักษณะคล้ายคนร้าย หรือหากพบคนกลุ่มนี้ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบได้ทันที

แถลงผ่านทีวีพูลเผยศาลอนุมัติหมายจับโยงบึ้ม 2 ราย

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือทีวีพูล โดยเปิดเผยว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเหตุวางระเบิดราชประสงค์อีก 2 คน คือ น.ส.วรรณา สวนสันต์ เจ้าของห้องพักเลขที่ 9106 หอพักไมมูณา ย่านมีนบุรี ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบปุ๋ยยูเรียน และดินเทา ซึ่งใช้ประกอบระเบิด และหมายจับชายตามภาพสเก็ตซ์ยังไม่ระบุสัญชาติ

ผู้ต้องหาตามหมายจับออกจากไทยไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบประวัติการเดินทางของ น.ส.วรรณา สวนสัน หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพัวพันเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ได้เดินทางออกจากไทยไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2558 ผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต ด้วยสายการบินเอธิฮัท เที่ยวบิน EY 431 ปลายทาง อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตท์ โดยในวันดังกล่าวมีภาพปรากฏที่สนามบินภูเก็ตพร้อมกับชายที่มีใบหน้าคล้ายกับภาพสะเก็ตที่ตำรวจออกหมายจับพร้อมกัน ปัจจุบันยังไม่มีประวัติว่าเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.วรรณา มีประวัติเดินทางไปยังมาเลเซีย โดยข้ามไปทางด่าน อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 และ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 เดินทางไปยังกัมพูชา ผ่านด่าน อ.คลองลึก จ.สระแก้ว

ค้นบ้าน"วรรณา"เพิ่งถูกออกหมายจับ พบออกนอกปท.ไปบ้านสามีที่ตุรกี

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 31 สิงหาคม 2558 พ.ต.อ. ธรัฐชา ถมปัดม์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ. สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังทหารกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระนอง เดินทางเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็นที่อยู่ของ น.ส.วรรณา หรือ นางไมซาเลาะห์ สวนสัน อายุ 27 ปี (ตามทะเบียนบ้าน) ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ พร้อมกับชายชาวต่างชาติ ที่อาศัยในห้องพักที่หอพักไมมูณา ย่านมีนบุรีที่นางสาววรรณาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าห้องไว้ให้ ในข้อกล่าวหาครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเชื่อว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับ เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยทางญาติยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแต่โดยดี แต่ไม่พบตัว โดยญาติผู้ใกล้ชิด น.ส.วรรณา คนหนึ่งแจ้งว่า น.ส.วรรณา ไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และล่าสุดญาติได้ติดต่อโซเชียล มีเดีย และพูดคุยกับ น.ส.วรรณา จนทราบว่าขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศตุรกี โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆและได้ติดต่อกับทางตำรวจกองปราบปรามแล้วและจะรีบเดินทางกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว

นายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 กล่าวว่า นส.วรรณาฯ ได้เรียนหนังสือและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะพบรักกับชาวตุรกีและเดินทางกลับมาจัดพิธีแต่งงานที่บ้านประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมาปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 1 คน และได้กลับมาบ้านในช่วงเทศกาลถือศีลอดที่ผ่านมา

หลังจากนั้นได้แจ้งกับญาติๆว่าจะเดินทางไปบ้านของสามีที่ประเทศตุรกี ส่วนตัวแล้วคาดว่าคงจะไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็คงจะโดนหลอกอย่างแน่นอน

ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ'วรรณา'อยู่ตุรกี

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้เข้าตรวจค้นพูลอนันต์อพาร์ทเมนท์ เลขที่ 134/5 ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. กระทั่งสามารถจับกุมชายชาวต่างชาติ ได้ 1 ราย ก่อนที่ต่อมาจะเข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 9106 หอพักไมมูณา ย่านมีนบุรี

โดยทั้งสองที่เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกจำนวนมาก ที่เชื่อได้ว่า เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย คือ น.ส.วรรณา หรือ นางไมซาเลาะ สวนสัน อายุ 27 ปี และชายชาวต่างชาติตามภาพสเก็ตช์นั้น

จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักว่า ชายที่ถูกจับกุมที่หนองจอกนั้น น่าจะเป็นคนร้ายที่ใส่เสื้อสีฟ้า ที่เตะระเบิดลงคลองที่ท่าเรือสาทร ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัติการเดินทางพบว่าน.ส.วรรณาได้เดินทางออกนอกประเทศไปยังเมืองดูไบ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา และไม่พบประวัติการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยอีกเลย

อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่าน.ส.วรรณา จะอาศัยอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากการสอบถามคนในอพาร์ทเมนต์ พบว่ายังคงเห็น น.ส.วรรณา และชายตามภาพสเก็ตช์เข้า-ออกในอพาร์ทเม้นท์ ช่วงประมาณวันที่ 10-20 สิงหาคม ที่ผ่านมา อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าน.ส.วรรณา มีสามีเป็นชาวตุรกีอีกด้วย