2แข้งหลัก'มุ้ย-ตี๋'นัดกันป่วย ซิโก้หวั่นสภาพอากาศเล่นงาน

 สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ไข้จับ ยอมรับหวั่นสภาพอากาศเล่นงานลูกทีม กำชับทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิดพร้อมยอมรับเห็นฟอร์ม อิรัก อุ่นเครื่องชนะ เลบานอน 3-2 ไม่ธรรมดา

ความคืบหน้าการเตรียมทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทยที่มีโปรแกรมลงอุ่นแข้งกับ อัฟกานิสถาน วันที่3 กันยายน และ การแข่งขันฟุตบอลโลก2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ2กลุ่ม เอฟ นัดที่ 3 พบ “สิงห์ทะเลยทราย” อิรัก วันที่ 8 กันยายนที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00น.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ทีมยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมที่ “กิเลน วัลเลย์” จ.นครราชสีมา โดย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ได้นำลูกทีมลงทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่วงเช้า และ ช่วงเย็น ปรากฏว่า 2 นักเตะตัวสำคัญของทีมไทย คือ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าทีมชาติไทย และ “ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตู ได้รับอนุญาตให้พักผ่อน เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด

หลังการฝึกซ้อม “ซิโก้” เปิดเผยว่า แม้สภาพทีมโดยรวมทุกคนะมีความพร้อมและสมบูรณ์พอสมควร แต่ทว่า ธีรศิลป์ แดงดา มีอาการเจ็บคอ ส่วน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ตัวร้อน จึงให้พักผ่อนทั้งคู่ ส่วนหนึ่งอาจเพราะเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ลงซ้อมท่ามกลางสายฝน ตอนนี้ได้สั่งให้พักจนหายไข้เสียก่อนถึงกลับมาลงฝึกซ้อม ทว่าอาการป่วยของทั้งคู่ไม่มีอะไรน่าห่วงมากนัก

“ยอมรับหนักใจพอสมควรเรื่องสภาพอากาศ เพราะที่นี่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งร้อน, หนาว แล้วยังมีฝนตก ซึ่งอาจจะส่งผลให้นักฟุตบอลป่วยง่าย จึงได้กำชับให้ทุกคนดูแลสภาพร่างกายตัวเองให้ดี ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังให้ทีมแพทย์คอยดูแลนักเตะอย่างใกล้ชิดอีกด้วย สำหรับอาการของ ธีรศิลป์ และ สินทวีชัย นับเป็นนักเตะทีมชาติรายที่3ที่เป็นไข้ ระหว่ามาซ้อมที่กิเลนวัลเล่ย์ ต่อจาก ปกเกล้า อนันต์”

เฮดโค้ชทีมชาติไทย เผยอีกว่า หลังจากได้เห็นฟอร์มการเล่นของทีม อิรัก ที่บุกไปเอาชนะ เลบานอน 3-2 ยอมรับ อิรัก ชุดนี้ นักเตะแต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่ เล่นเกมเร็ว รับแล้วโต้กลับได้ดีมาก อีกทั้งผู้เล่นของ อิรัก มีประสบการณ์ในการเล่นนอกบ้านได้มากกว่า เพราะจะเล่นที่ต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ก็จะพยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อนำมาวางแผนรับมือในเกมวันที่ 8 กันยายนนี้

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวจากฝ่ายจัดการแข่งขันว่า ในเกมทีมชาติไทย พบ อิรัก ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ได้เชิญฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ ฝ่ายจัดจัดการแข่งขันฯ จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ทหาร ร่วม 1,000 นาย เพื่อดูแลความเรียบร้อย พร้อมกับจะมีการนำเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดไปตรวจในวันแข่งอย่างละเอียด