นานาชาติประณามเหตุระเบิดราชประสงค์

นานาชาติประณามเหตุระเบิดราชประสงค์

หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อคืนวานนี้ (17 ส.ค.) หลายประเทศต่างออกมาประณามและแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว

นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาชาติ หรือยูเอ็น ออกแถลงการณ์แสดงความตกตะลึงอย่างมากต่อเหตุระเบิดย่านใจกลางกรุงเทพมหานครครั้งนี้ และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังรัฐบาลไทย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย พร้อมทั้งขออวยพรและส่งกำลังใจให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคนมีอาการดีขึ้นในเร็ววัน รวมถึงแสดงความหวังว่า ทางการไทยจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายได้

ขณะที่โฆษกสหภาพยุโรป หรืออียู ออกแถลงการณ์ประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นการก่ออาชญากรรม พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมถึงอวยพรให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นโดยเร็ว นอกจากนี้ อียูยังส่งกำลังใจไปให้ชาวไทยทุกคน ซึ่งกำลังตกอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาเสียขวัญและตื่นตระหนกอย่างหนัก

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ นายจอห์น เคอร์บี แถลงแสดงความเสียใจต่อบรรดาญาติผู้สูญเสีย และว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในไทยเป็นการก่อการร้าย นายเคอร์บีเสริมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ไทยกำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และจนถึงขณะนี้สหรัฐยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่จะบ่งชี้ได้ถึงสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าว รวมถึงการระบุตัวผู้ก่อเหตุด้วย

นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบอตต์ของออสเตรเลียกล่าวประณามเหตุระเบิดในไทย และเรียกร้องให้พลเมืองออสเตรเลียเดินทางไปท่องเที่ยวในไทยต่อไป เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่ดีของออสเตรเลีย และเผยอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติของออสเตรเลียเสนอให้คำแนะนำและมอบความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทยด้วย

ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียทวีตประณามเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และภาวนาให้ผู้บาดเจ็บหายดีโดยเร็ว

ส่วนนายกรัฐมนตรีลี เซียน หลุงของสิงคโปร์ทวีตแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งนี้ และขอให้พลเมืองที่อยู่ในกรุงเทพมหานครไปลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียก็ทวีตประณามการก่อเหตุระเบิดว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์รวมถึงชาวมาเลเซีย 2 คนและชาติอื่นๆ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพวกเขา

ขณะที่สำนักงานความมั่นคงของฮ่องกงออกประกาศเตือนภัยเรื่องการเดินทางในระดับ “สีแดง” ให้แก่ประเทศไทย เพื่อเป็นการเตือนให้พลเมืองของตัวเองเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินทางและดำรงชีวิต หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คนในจำนวนนี้ 2 คนเป็นชาวฮ่องกง และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 120 คน

ทั้งนี้ การประกาศเตือนภัยสีแดงสูงเป็นรองเพียง “สีดำ” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด โดยก่อนหน้านี้ทางการฮ่องกงเคยประกาศเตือนภัย “สีอำพัน” ให้แก่ไทย เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ปีที่แล้ว หรือ 2 เดือน หลังเกิดการรัฐประหาร ซึ่งคำสั่งดังกล่าวของทางการฮ่องกงยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน