ทุนจีนยึดพัทยา ลงทุนอสังหาฯ

ทุนจีนยึดพัทยา ลงทุนอสังหาฯ

ธุรกิจจีนเคลื่อนทัพบุกพัทยาเสียบแทนทุนรัสเซีย จับมือ บริษัทอสังหาฯ ลงขัน 500 ล้านหยวน สร้างบ้านราคาแพง ขายนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย

นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมนายหลู จวิ้น ชิง (Mr.Lu Jun Qing) ประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน นำคณะนักธุรกิจชั้นนำจากมณฑลต่างๆ ของประเทศจีนประมาณ 26 ราย เข้าร่วมหารือและจับคู่การทำธุรกิจกับนักธุรกิจไทย เมื่อเร็วๆนี้

สำหรับนักธุรกิจจีนที่เดินทางมาครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่มีขนาดธุรกิจใหญ่ ที่ลงทุนอยู่หลายประเทศ ประกอบด้วย นักธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน ธุรกิจเหมืองแร่ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศธุรกิจ กลุ่มน้ำมันปิโตรเคมี และด้านการศึกษา เข้าร่วม

เช่นเดียวกัน ในส่วนของไทยนักธุรกิจที่เข้าร่วมเจรจาทางธุรกิจครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีบริษัทอารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท888 แลนด์แอนด์เดเวลอปเม้นท์ จำกัด โรงแรมดาราเทวี จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมพัทยา รีสอร์ท บริษัทเอส.เค.ซัมมิท จำกัด กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ อาทิ บริษัทศูนย์การค้าอินโดจีน จำกัด บริษัทคัฟเวอร์แนนท์ จำกัด บริษัท Warrix จำกัด เป็นต้น

ทุนจีนบุก“พัทยา”ลงทุนอสังหาฯ

นายหลู จวิ้น ชิง ประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ได้นำกลุ่มนักธุรกิจจากมณฑลต่างๆ มาเจรจาจับคู่ทางธุรกิจพร้อมศึกษาลู่ทางการลงทุนในไทย โดยเฉพาะที่เมืองพัทยา ในฐานะที่เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์เมืองพัทยา เขาพร้อมที่จะนำพานักธุรกิจจีนมาลงทุนและสร้างบ้านหลังที่ 2 ที่พัทยาต่อไป โดยเชื่อว่านักธุรกิจจีนจำนวนมาก มีการซื้อบ้านในต่างประเทศอยู่แล้ว และหวังว่าจากนี้ไปนักธุรกิจจีนก็พร้อมที่จะเข้ามาซื้อบ้านที่พัทยาเพิ่มขึ้น 

“ผมมีความเชื่อว่าต่อไป หากนักธุรกิจจีนสามารถมาอยู่ที่พัทยาได้เป็นหมู่บ้านเดียวกัน ก็น่าจะสามารถสร้างความร่วมมือได้ง่ายขึ้น เพียงแต่ขอให้คนพัทยายอมรับคนจีนด้วย”

ประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน ยังเชื่อว่า นักธุรกิจจีนพร้อมที่จะเข้ามาซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่เมืองพัทยา และพร้อมที่จะเข้ามาร่วมลงทุนกับนักธุรกิจไทยในทุกๆกลุ่ม ที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน และเชื่อว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้มีการเจรจาทางธุรกิจเกิดขึ้นแน่นอน

พร้อมดึงทุนจีนเข้าไทยทุกปี

“ผมได้เจอกับรองนายกฯวิษณุ เครืองาม ท่านเสนอที่จะให้ผมนำคณะนักธุรกิจจากจีน มาพบปะกับนักธุรกิจของไทยทุกเดือน แต่ผมว่าตรงนี้คงจะลำบาก เพราะนักธุรกิจแต่ละราย มีภาระในการดำเนินธุรกิจ แต่หากให้มีการพบปะ หรือพูดคุยในทางธุรกิจร่วมกันปีละ 2 ครั้ง ผมมั่นใจว่าทำได้ โดยช่วงครึ่งปีแรก อาจมีการนำนักธุรกิจจีนมาไทย ส่วนครึ่งปีหลังก็มีการนำนักธุรกิจไทยไปจีน ตรงนี้ผมเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย ความสัมพันธ์อย่างนี้ จะทำให้เกิดการลงทุนร่วมกันได้ง่ายขึ้น ส่วนจะเข้าไปร่วมเจรจาการลงทุนในมณฑลไหนก็ได้”นายหลู กล่าว และว่าทางสมาคมฯได้นำคณะนักธุรกิจจีนมาไทยหลายครั้งแล้วโดยเฉพาะที่เมืองพัทยา ทำให้พวกเขามีความผูกพันมากกับที่เมืองพัทยา และเห็นว่าพื้นที่หนึ่งที่เหมาะแก่การเข้ามาลงทุน

ทัพนักธุรกิจ50ล้านราย

นายหลู กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศจีนมีนักธุรกิจอยู่ประมาณ 50 ล้านคน ซึ่งแต่ละปีก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นการออกไปลงทุนต่างประเทศของนักธุรกิจจีน จึงเป็นเป้าหมายสำคัญ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่จีนให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นนับจากนี้ ในหลายธุรกิจ

เมื่อปี2552 ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้นำคณะนักธุรกิจจากจีนประมาณ 300 คน เป็นกลุ่มนักธุรกิจ-นักลงทุนชั้นนำ และเป็นสมาชิกของสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า ตลอดจนจากประเทศอื่นๆทั่วโลกเข้ามาประเทศไทย เพื่อเจรจาทางธุรกิจครั้งนั้นพบว่าทั้งนักธุรกิจไทยและจีนได้มีการเจรจาทางธุรกิจร่วมกันในหลายอุตสาหกรรม โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามเอ็มโอยูที่จะทำธุรกิจร่วมกันเป็นเงินลงทุนประมาณ 6,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการดำเนินธุรกิจร่วมกัน

สำหรับสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่มาจากหลากหลายอุตสาหกรรมมีการดำเนินธุนกิจทั้งในประเทศจีน และต่างประเทศ สำหรับบริษัทที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมฯได้ จะต้องเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินและมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านหยวน ถึงจะเข้ามาเป็นสมาชิกได้ ปัจจุบันสมาคมฯดังกล่าวมีสมาชิกอยู่ประมาณ 70,000 ราย

ลงขัน500ล้านหยวนร่วมเอกชนไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการเดินทางเจรจาธุรกิจของนักธุรกิจจีนครั้งนี้ ปรากฏว่า ได้เจรจาที่จะร่วมดำเนินธุรกิจอยู่หลายรายส่วนใหญ่นักธุรกิจจีนกลุ่มนี้ สนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พัทยา ร่วมกับนักธุรกิจไทย ในเบื้องต้นกลุ่มนักธุรกิจจีนได้ตกลงกับบริษัทของไทยรายหนึ่ง ที่จะร่วมทุน โดยฝ่ายจีนจะมีนักธุรกิจ 5 คน จะร่วมลงทุนรายละ 100 ล้านหยวน เป็นเงิน 500 ล้านหยวน เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีแผนที่จะสร้างบ้านราคาแพงขายให้กับนักธุรกิจจีนที่เข้ามาอยู่หรือมาทำธุรกิจในพัทยา

บริษัทเอกชนรายดังกล่าว ขณะนี้ได้มีข้อตกลงร่วมกันแล้ว ที่จะเข้ามาพัฒนาอสังหาฯในเมืองพัทยาขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะสร้างคอนโดมิเนียมที่พัทยาด้วย

“หลังจากกลุ่มทุนรัสเซียได้ถอนตัวจากการลงทุนช่วงที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจอสังหาฯในเมืองพัทยาพร้อมที่จะนำออกมาขายอีกจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสดีของกลุ่มทุนไทยและนักธุรกิจจากจีนที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาอสังหาฯจากนี้ "

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจของไทยหลายราย ได้เจรจาแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจ พร้อมที่จะจับคู่ทางธุรกิจกับจีน เช่นเดียวกับบริษัท Warri จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตเสื้อผ้ากีฬา ซึ่งเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี แจ้งว่าบริษัทต้องการผู้ร่วมทุนจากจีน และต้องการหาตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าในจีน เพื่อขยายแบรนด์ Warrix ในจีน พร้อมกันนี้ยังมองหาโรงงานผลิตอุปกรณ์กีฬา ลูกฟุตบอล จากการเจรจาพูดคุยกับนักธุรกิจพบว่ามีหลายรายสนใจที่จะร่วมทุนในการทำธุรกิจร่วมกัน ถือเป็นเรื่องที่ดีของการเข้าร่วมจับคู่ทางธุรกิจครั้งนี้

ดึง200เอสเอ็มอีจีนจับคู่ไทยพ.ย.นี้

นายพินิจ กล่าวว่า การจับคู่ทางธุรกิจครั้งนี้ระหว่างนักธุรกิจไทยกับจีนเป็นเพียงกลุ่มย่อย แต่เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่มีเงินลงทุนมาก ที่มองหาลู่ทางการลงทุน โดยนักธุรกิจจีนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่พัทยาสูง ก่อนหน้านี้ได้ทยอยเข้ามาลงทุนในไทยอยู่หลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจเกษตร โรงงานผลิตยางรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนพ.ย.2558 ตนจะนำคณะนักธุรกิจจากจีนในระดับกลางหรือเอสเอ็มอี เข้ามาเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับนักธุรกิจไทยประมาณ 200 ราย ดังนั้นเชื่อว่าจะทำให้เกิดการลงทุนร่วมของสองฝ่ายมากขึ้น

“ผมไม่ต้องการดึงนักธุรกิจรายใหญ่เข้ามาเพราะคิดว่านักธุรกิจรายใหญ่สามารถเจรจาและจับคู่ทางธุรกิจได้ แต่ที่เป็นปัญหาตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นระดับเอสเอ็มอีมากกว่า ผมเลยอยากดึงนักธุรกิจจีนระดับเอสเอ็มอีมาจับคู่กับคนไทยมากกว่า”

นายพินิจ กล่าวว่า นักธุรกิจจีน ยังต้องการที่จะร่วมลงทุนกับไทยอีกมาก ในหลายๆธุรกิจ ซึ่งเขามีความพร้อมมากกับการออกไปลงทุนนอกประเทศ ดังนั้นไทยถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของการร่วมลงทุน

5 เดือนโครงการรอขายชลบุรี1.3แสนยูนิิต

จากการสำรวจตลาดภาคตะวันออก ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ยังพบว่าปี 2557 ชลบุรีมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย1.3 แสนยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 5.3 หมื่นยูนิต คอนโด 8.5หมื่นยูนิต บ้านพักตากอากาศ 450 ยูนิต โดยบ้านจัดสรร เหลือขาย 2.1 หมื่นยูนิต มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท อาคารชุดเหลือ (คอนโด) ขาย 2.5 หมื่นยูนิต มูลค่า 6.6 หมื่นล้านบาท

สำหรับช่วงม.ค.-พ.ค. 2558 มีโครงการที่ปิดการขาย 59 โครงการ ทำให้ยูนิตลดลงเหลือ ประมาณ 2,700 ยูนิต และมีโครงการเปิดใหม่ 34 โครงการ 3,900 ยูนิต ส่วนคอนโดมี 12 โครงการ ที่ขายได้หมด ทำให้จำนวนยูนิตลดลงไป 1,300ยูนิต โดยมีโครงการที่เปิดขายใหม่16โครงการ6,300ยูนิต

6 เดือนทุนจีนสนลงทุนไทย 8.4 พันล้าน

ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2558 มีนักลงทุนจีน สนใจเข้ามาขอรับส่งเสริมการลงทุนในไทย จำนวน 23 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 8,477 ล้านบาท และได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน จำนวน 33 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 5,505 ล้านบาท 

ส่วนในปี 2557 มีนักลงทุนจีน สนใจขอรับส่งเสริมการลงทุน จำนวน 77 โครงการ มูลลค่าเงินลงทุนรวม 33,707 ล้านบาท และได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน จำนวน 40 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 38,247 ล้านบาท