ศุลกากรยึดเครื่องประดับงาช้างมูลค่ากว่า5ล.

ศุลกากรยึดเครื่องประดับงาช้างมูลค่ากว่า5ล.

ศุลกากรหนองคาย ตรวจยึดเครื่องประดับที่ทำจากงาช้าง 150 อัน น้ำหนักรวม 7 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรหนองคาย นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย,นายชลิต ลี้ตระกูล หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดงาช้าง ที่ทำเป็นเครื่องประดับ ประเภท กำไลข้อมือ น้ำหนักอันละ 1-2 ขีด,ลูกประคำร้อยสาย,งาช้างแกะสลักเป็นรูปพระสังกัจจายน์ และสัตว์มงคลต่าง ๆ รวม 150 อัน น้ำหนักรวม 7 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท โดยได้ทำการตรวจที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่1อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อเวลา16.00น.ของวันที่4ส.ค.ที่ผ่านมา

 นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่าเขณะที่จ้าหน้าที่ประจำด่านฯ ได้ปฎิบัติหน้าที่ตามปกติโดยได้ทำการตรวจรถยนต์ที่เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ และได้ตรวจสอบรถยนต์ตู้คันหนึ่งของคนไทยที่นำนักท่องเที่ยวชาวจีน รวม10คน มาจากประเทศ สปป.ลาว เพื่อเข้าทำพิธีการผ่านแดน เมื่อตรวจสอบที่วางสัมภาระท้ายรถมีกล่องกระดาษต้องสงสัย1ใบวางปะปนอยู่กับกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร จึงเปิดดูทำการเปิดดู พบ เครื่องประดับที่ทำจากงาช้าง ซึ่งพันทับด้วยเทปกาวสีดำ ห่อด้วยกระดาษก็อปปี้อย่างมิดชิดเมื่อสอบถามผู้โดยสารก็ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ ขณะที่คนขับรถตู้บอกว่า ตนเพิ่งมารับผู้โดยสารจากรถยนต์ตู้อีกคันหนึ่งจึงไม่ทราบว่ามีสิ่งของและสัมภาระของใครบ้าง ซึ่งการตรวจพบเครื่องประดับที่ทำจากงาช้างครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยคาดว่าน่าจะลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปกระจายจำหน่ายตามจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญๆ ของไทยและจากการตรวจสอบพบว่ามีการแกะสลักโดยช่างฝีมือดีมีความสวยงามมาก ซึ่งแต่ละชิ้นอาจมีราคาถึงอันละ 30,000–50,000 บาท

นายชลิต ลี้ตระกูล หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าหนองคาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบด้วยกล้องเบื้องต้นพบว่าเป็นงาช้างแท้ แต่ต้องนำส่งพิสูจน์ตรวจดีเอ็นเออีกครั้งหนึ่งที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อให้ทราบว่าเป็นช้างแถบเอเชียหรือแอฟริกา เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงทำการตรวจยึดของไว้ทั้งหมดเนื่องจากเป็นการกระทำผิดตาม พรบ.ศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรและเป็นสิ่งของต้องห้ามต้องกำกัด หากภายใน 30 วัน ไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ สิ่งของทั้งหมดจะตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินตามกฎหมายต่อไป