คาดปรับปรุงกฎหมายแข่งขันการค้าเสร็จสิ้นปีนี้

คาดปรับปรุงกฎหมายแข่งขันการค้าเสร็จสิ้นปีนี้

กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้าพร้อมสร้างความเป็นธรรมระบบการค้าแบบเสรี ชี้อยู่ระหว่างทบทวน คาดเสนอ ครม.สิ้นปีนี้

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้าที่อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดด้านต่าง ๆ ว่า คาดน่าจะพิจารณาเสร็จก่อนสิ้นปี 2558 และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นปีนี้ โดยไม่ได้ล่าช้าต่อการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวที่มีการพูดถึงอยู่ขณะนี้

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายแข่งขันทางการค้าเป็นธรรมนูญทางการค้าที่จะใช้บังคับกับให้ผู้ประกอบการในประเทศทุกระดับตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอีจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ให้อยู่ภายใต้กติกาเดียวกันมีการแข่งขันได้อย่างเสรีและเป็นธรรม ดังนั้น การปรับปรุงกฎหมายจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม สร้างบรรยากาศที่ดีกับการค้าการลงทุน และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งการปรับปรุงกฎหมายจึงต้องมีความระมัดระวัง อีกทั้งการปรับปรุงกฎหมายแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติกติกาการแข่งขันครั้งใหญ่ เพื่อให้กฎหมายสามารถมีผลใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกขั้นตอนของการผ่านกฎหมาย จึงต้องมีความพิถีพิถันและเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น หลังจากกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

นอกจากการเตรียมการในส่วนของการปรับปรุงกฎหมายแล้ว กรมการค้าภายในได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านองค์กร บุคลากร และกฎระเบียบต่าง ๆ ให้สอดรับกับร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่นี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายสามารถดำเนินการได้ทันทีเมื่อร่างพระราชบัญญัติผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้ามีประสิทธิภาพ จะต้องมีการรับฟังความเห็นรอบด้าน ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ขั้นตอนสุดท้ายในการนำความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความสมบูรณ์สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจและเป็นไปตามหลักสากล ซึ่งกรมการค้าภายในมั่นใจว่ากฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับปรับปรุงนี้จะเป็นธรรมนูญทางการค้าแก่การประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะได้ผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้เป็นไปตามแผนภายในสิ้นปีนี้