ตร.ยังไม่สรุปสาเหตุตาย'เสี่ยชูวงษ์'

ตร.ยังไม่สรุปสาเหตุตาย'เสี่ยชูวงษ์'

ตร.ยังไม่สรุปสาเหตุตาย "เสี่ยชูวงษ์" รอหลักฐานทางเทคนิคจาก พฐ.คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าอุบัติเหตุการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลทางเทคนิคจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ และแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ที่ได้ให้ไปตรวจสอบเพิ่มแต่อย่างใด จึงยังคงไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม ส่วนกรณีเรื่องการโอนหุ้นนั้น ให้ทางกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้รับผิดชอบ กรณีดังกล่าวทางบช.น.ได้ทำการตรวจสอบเพียงแค่เรื่องเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตเท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้พิพากษาอาวุโสท่านหนึ่งเป็นผู้บงการจัดฉาก เพื่อใช้ตำรวจทำการอายัดหุ้นของนายชูวงษ์นั้น ทาง บช.น.จะทำการตรวจสอบเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือไม่ โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ ตอบว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่กรณีการโอนหุ้นจะมีหลักฐานแสดงโดยมิชอบอย่างไรนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งให้ บก.ป. ทำการตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนทาง บช.น.ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบในส่วนที่รับผิดชอบ

“ถือว่าการโอนหุ้นดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุการเสียชีวิตเกิดขึ้น ถึงจะมีการตรวจสอบชัดเจนแล้วก็ตาม แต่กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นผู้ตายเสียชีวิตกับการโอนหุ้นนั้น เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระกัน แต่หากตรวจสอบจนสิ้นสุดลงแล้ว สามารถสรุปได้ว่า การโอนหุ้นดังกล่าวชี้ให้เห็นได้ว่า มีเจตนาที่เกี่ยวข้องทำให้ผู้ตายเสียชีวิตแม้จะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เราก็ต้องดำเนินการตรวจสอบพยานเอกสารให้แน่ชัดเสียก่อนว่า เกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ และเกี่ยวข้องอย่างไร ไม่ใช่จะมาสรุปเรื่องการโอนหุ้นเอามาโยงกับสาเหตุการเสียชีวิต” ผบช.น. กล่าว

พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังรอผลจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคที่จะต้องให้ข้อมูลเพื่อตอบข้อสงสัยในประเด็นที่ตั้งไว้ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าวให้ได้ชัดเจน และตอบคำถามสังคมให้ได้ก่อน คาดว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.บรรยิน เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ถ้าหาก พ.ต.ท.บรรยินหรือทางญาติติดใจอย่างไร ก็ยินดีที่จะทำการตรวจสอบให้คลายข้อสงสัย ยืนยันว่าจะให้ความยุติธรรมทุกฝ่ายตรงไปตรงมา โดยจะร่วมประชุมกับทุกฝ่ายเพื่อสรุปคดีอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับคดีการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ของนายชูวงษ์ ว่า การตรวจสอบในเรื่องความเร็วของรถยนต์ ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้รวบรวมหลักฐานด้านเอกสารใกล้จะเสร็จแล้ว ซึ่งกำลังดำเนินการเร่งสรุปผล โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะส่งมอบให้พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นทีมสอบสวนที่ทำสำนวนเกี่ยวกับคดีนี้ได้ทัน

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีการตรวจสอบเรื่องใดเพิ่มเติม นอกจากเรื่องความเร็วรถยนต์ ส่วนคลิปเสียงการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้น ยังไม่ได้รับจากกองปราบปราม ทั้งนี้หากทางพนักงานสอบสวนตรวยจพบรายละเอียดที่ต้องการให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพิ่มเติม ก็ยินดีและพร้อมจะตรวจสอบให้เต็มที่ เพื่อคลี่คลายทุกข้อสงสัยตามกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. กล่าวเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนคดีสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทุกวัน แม้จะเป็นวันหยุดยาว โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยทั้ง 22 ประเด็นที่ทาง ผบช.น.ได้สั่งการให้สอบเพิ่มเติมก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องรวบรวมทั้งพยานหลักฐานที่เป็นเอกสาร สำนวนการสอบปากคำพยานบุคคล ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องรอผลเพิ่มเติมจากกองพิสูจน์หลักฐานด้วย ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว

“สำหรับเรื่องการสอบสวนยังไม่ได้รับรายงานว่าจะเรียกใครมาสอบเพิ่ม และผลตรวจสอบเรื่องอุบัติเหตุเกี่ยวกับความเร็วรถ ยังอยู่ที่ พฐ. คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสรุปส่งให้ โดยเบื้องต้นจากพยานหลักฐานเท่าที่เรามีในตอนนี้การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ยังคงเป็นประเด็นอุบัติเหตุ เพราะยังไม่มีข้อมูลหรือพยานหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ได้ว่าเป็นเรื่องอื่น ส่วนกรณีที่ญาติของผู้ตาย ได้ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อขอให้เปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ทาง บชน. ยังไม่มีการหารือ และขอยืนยันว่าตำรวจทำทุกขั้นตอนตามพยานหลักฐาน ไม่มีการแทรกแซงสำนวน ว่ากันจามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่ได้เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” รอง ผบช.น.ระบุ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. กล่าวถึงเรื่องการตรวจสอบการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเริ่มจากพยานที่มีความสำคัญที่สุดก่อน จากนั้นจะเรียกบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นทั้งหมดมาสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นญาติ คนรู้จัก คนรับโอนหุ้น โบรกเกอร์ บริษัทโบรกเกอร์ โดยขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก นอกจากนี้ยังมีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ทางพนักงานสอบสวน ได้ส่งหนังสือเชิญไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว เพื่อขอความร่วมมือเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน บก.ป. แต่ขณะนี้ยังไม่มีหนังสือตอบรับกลับมา จึงไม่สามารถระบุได้ว่า บุคคล จาก ก.ล.ต. ที่จะมาเข้าให้ข้อมูลนั้นเป็นใคร หรือจะมาวันเวลาไหน อย่างไรก็ตามอาจมีการเรียกบุคคลที่เคยเข้าให้ปากคำไปแล้วมาสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ทั้งหมด

มีรายงานข่าวว่า วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ พร้อมทนายความจะมีการแถลงข่าว พร้อมเปิดหลักฐานภาพวงจรปิดในวันที่ พ.ต.ท.บรรยินมารับนายชูวงษ์ ที่บริษัท และเห็นนายชูวงษ์คาดเข็มขัดนิรภัยหลังจากขึ้นรถไปแล้ว จากนั้นจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม