'อีซูซุ'หวังลงทุนรัฐดันตลาดครึ่งปีหลัง

'อีซูซุ'หวังลงทุนรัฐดันตลาดครึ่งปีหลัง

"อีซูซุ"หวั่นปัจจัยลบรอบตัวฉุดตลาดรถยนต์ฟื้นตัวช้า หวังรัฐลุยลงทุนเมกะโปรเจคชดเชยล่าช้าครึ่งปีแรก เชื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นางปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครึ่งปีแรกหดตัว 16% ขณะที่ครึ่งปีหลังแม้จะเข้าสู่ฤดูกาลขายแต่เห็นว่าปัจจัยลบที่มากกว่าปัจจัยบวก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยคาดว่าทั้งปี ตลาดรวมจะทำได้ 8 แสนคัน

ปัจจัยลบที่เห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดและเศรษฐกิจ มีทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่นิ่ง บางพื้นที่ไม่ดีนัก ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการส่งออกของไทยที่ล่าสุดภาครัฐออกมาเปิดเผยตัวเลขว่าตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ทำให้ระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกมาก ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง

นอกจากนั้นยังมีภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้ขาดกำลังซื้อ ขณะเดียวกันก็ส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อผู้ที่มีกำลังซื้อ แต่ไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย

รวมไปถึงปัญหาภาคการเกษตรที่ราคาพืชผลยังตกต่ำ โดยเฉพาะพืชผลหลักของประเทศ ทั้งข้าว ยางพารา และความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่ต้องการลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ หลังจากเห็นทิศทางหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าปัจจัยบวกก็มีเช่นกัน เช่น ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ การท่องเที่ยวของไทยที่ขยายตัวได้ดี และแนวโน้มการใช้จ่ายภาครัฐ

“ช่วงครึ่งปีแรกรัฐอาจจะใช้จ่ายไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจเช่นกัน แต่ครึ่งหลังมีสัญญาณที่ดี ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นจุดสำคัญ หากรัฐสามารถลงทุนในเมกะโปรเจคได้ตามเป้าหมาย เชื่อว่าจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น และส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วย”

นางปนัดดา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน อีซูซุเห็นว่าแนวทางกระตุ้นตลาดด้วยการจัดแคมเปญส่งเสริมกาขายจะใช้ได้ผลไม่มากนัก เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อต่ำ และขาดความมั่นใจ ดังนั้นในส่วนของอีซูซุ จะเน้นการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงตัวผู้บริโภค และจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มย่อย เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าเป้าหมายต้องการ รวมไปถึงกิจกรรมที่จะช่วยสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เช่น ระบบอินไซท์ หรือระบบการประเมินผลการขับขับขี่ที่ติดตั้งในปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ และมิมาโมริ ที่ติดตั้งในรถบรรทุก ซึ่งทั้ง 2 ระบบทำให้ผู้ขับ หรือเจ้าของกิจการ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลการขับขี่ออกมาประเมินผล เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ ทั้งด้านความปลอดภัย และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

“ผู้ขับจะรู้ว่าที่ผ่านมามีลักษณะการขับขี่อย่างไร เบรกแรงเกินไป เร่งเร็วเกินไป ใช้รอบเครื่องยนต์ไม่ถูกต้อง รอบเดินเบาไม่ถูกต้อง ก่อนจะนำไปปรับปรุง ทำให้ประหยัดขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายน้อยลง และในแง่องค์กรพบว่าบางแห่งประหยัดน้ำมันได้ถึง 20%”

นางปนัดดากล่าว่าที่ผ่านมาผู้รู้จักระบบนี้คือผู้ที่มีรถอยู่แล้ว แต่อีซูซุจะเน้นการสร้างการรับรู้สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ใช้รถ เพื่อให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น