สหรัฐฯกดดันค้ามนุษย์อยู่เทียร์3 หวังทำลายการส่งออก

สหรัฐฯกดดันค้ามนุษย์อยู่เทียร์3 หวังทำลายการส่งออก

อธิบดีอัยการต่างประเทศโพสต์เฟสบุ๊ก แสดงความเห็นสหรัฐฯ กดดันtier 3 ต้องการทำลายการส่งออก เชื่อเรื่องต่อไปเล็งโจมตีเรื่องมาตรฐานการบิน

นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักต่างประเทศ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการค้ามนุษย์ ได้โพสต์เฟสบุ๊คแสดงความเห็นกรณี ที่สหรัฐฯ เปิดเผยรายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ของไทยปีนี้ (พ.ศ.2558) โดยไทยคงอยูในระดับต่ำสุดหรือประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์รุนแรงที่สุด หรือ Tier 3 ว่า ตอนนี้เป็นเรื่องการเมืองไปแล้ว ถ้าไม่ปฏิวัติก็คงขึ้นtier 2 WL ไปแล้ว สหรัฐฯต้องการกดดันไทยต่อไปทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ เพราะรัฐบาลนี้ได้ทำทุกอย่างที่จะทำได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่การพิจารณาไม่ได้ทำกันอย่างตรงไปตรงมาตามเนื้อหา ซึ่งสหรัฐฯใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายเศรษฐกิจไทยต่อไป แล้วจะตามมาด้วย EUในเรื่องประมง IUUรวมทั้งเรื่องมาตรฐานการบินสหรัฐฯและยุโรปต้องการกดดันการส่งออกของไทยให้ถึงที่สุด เป็นการแซงชั่นรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ นอกเหนือจากการตัดGSP การไม่เจรจาทำข้อตกลงทางการค้าการจัดเป็น tier 3 เพื่อให้ประเทศสหรัฐฯและยุโรปรณรงค์ไม่ให้ประชาชนซื้อสินค้าไทย ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะแก้เกมอย่างไรจะพึ่งจีนคงไม่ไหว เพราะจีนก็เอาเปรียบชนิดพม่ากับลาวยังถอยหนีและจีนกำลังทำสงครามเศรษฐกิจกับสหรัฐฯอยู่อย่างรุนแรง ทั้งนี้ สหรัฐต้องการทุบเศรษฐกิจไทย เพราะ1. เรามีรัฐบาลที่มาจากปฏิวัติ 2. เราหันไปพึ่งพิงทางเศรษฐกิจจากจีนมากขึ้น สหรัฐต้องการแสดงให้เห็นว่า จีนไม่สามารถช่วยเราได้ 3. การส่งพวกอุยกูร์กลับจีนก็มีส่วนด้วยเช่นกัน  

นายวันชัย ยังโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า เรื่องการจัดอับดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐ Tier 1 คือ ประเทศที่ไม่มีปัญหา หรือมีแต่แก้ได้แล้ว Tier 2 คือ ประเทศที่มีปัญหา ยังแก้ไม่ได้ แต่ได้พยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจังTier 3 คือ ประเทศที่มีปัญหามาก แต่ไม่แก้ หรือไม่พยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจังในเรื่องนี้ รัฐบาลนี้พยายามแก้ปัญหามากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาในทุกด้านซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ มาตรฐานและคำนิยามของ tier 2ไม่มีทางที่จะอยู่ใน tier 3 เลย สหรัฐก็รู้มาตลอดว่าประเทศไทยทำเยอะมากมายขนาดไหน เรียกว่าพยายามแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง ตามหลักเกณฑ์ มาตรฐาน และคำนิยามของ tier 2 ถ้าไม่มีเรื่องทางการเมืองที่ต้องการกดดันทางเศรษฐกิจกับประเทศไทย ชนิดที่มีการตั้งธงไว้แล้วนี่ อย่างไรประเทศไทยก็ต้องขึ้น tier 2 หรือ tier 2 watch list การจัดอันดับปีนี้จึงไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง แต่เป็นการตัดสินใจด้วยประเด็นทางการเมืองล้วนๆ 

การจัดอันดับประเทศไทยอยู่ในอันดับ 3 จะเปิดโอกาสให้ยุโรป และพรรคพวก อ้างเป็นเหตุไม่ซื้อสินค้าไทย เพื่อทำลายอุตสาหกรรมประมง อาหารทะเลอาหารทะเลแช่แข็ง อาหารกึ่งสำเร็จรูปจากอาหารทะเลและไม่ใช่เฉพาะอาหารทะเล แต่ลามปามไปสินค้าอื่นๆด้วยคิดประเมินความเสียหายไว้ประมาณ สองแสนล้านบาทการส่งออกจะตกต่ำไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องสหรัฐโจมตีการส่งออก เพราะรู้ว่าเราพึ่งพิงการส่งออกมาก เป้าคือให้เศรษฐกิจตกมากๆ ให้ประชาชนเดือดร้อนแล้วลุกฮือต่อต้านรัฐบาลเพราะเดือดร้อนทางเศรษฐกิจรัฐบาลจะอยู่ยาก 

อีกส่วนที่กำลังโจมตีคือ เรื่องมาตรฐานการตรวจสอบการบิน อันนี้เป็นอีกเรื่องที่เรามีจุดอ่อน เป็นการทำลายการเป็นศูนย์กลางการบินของไทยในระยะยาวทำลายสายการบินต่างๆ ของไทย และเป้าหมายสุดท้ายคือทำลายการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักอีกเส้นของไทยทำนายได้เลยว่า เรื่องการบิน ไทยจะถูกใบแดงทั้งจากยุโรปและสหรัฐ การบินไทยเจ๊งแน่ๆ รวมทั้งสายการบินสัญชาติไทยด้วย

"เราต้องเผยแพร่ในประเด็นกฎหมายครับ คือยกคำนิยาม และเอาอะไรที่เราทำมาเรียบเรียงว่าเราทำตามคำนิยามใน tier 2 ให้ชัดเจนแล้วเผยแพร่แถลงข่าวออกไปอย่างเป็นทางการของ กต. รวมทั้งชี้แจงไปทั่วโลก จุดอ่อนคือเรื่อง อุยกูร์ จะโดนโจมตีมากแต่เรื่องอุยกูร์ไม่ใช่เรื่องค้ามนุษย์ เป็นเรื่องผู้ลี้ภัย คนละประเด็นกัน แต่สหรัฐมั่วจับมารวมกัน"