สุรินทร์ชวนรักษ์ ตักบาตรบนหลังช้าง

เมืองช้างอย่างสุรินทร์ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไม่เฉพาะเมืองไทย แต่โด่งดังไปจนถึงระดับนานาชาติ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนเมืองไทยแล้วถามหา “ช้าง(สุรินทร์)อยู่ไหน”
จะว่าไป มีหลายจังหวัดที่ยังมีการเลี้ยงช้าง รวมถึงมีศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย แต่ สุรินทร์ ดูจะเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่า มีหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างใหญ่ที่สุดในโลก นั่นก็คือ ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
ศูนย์คชศึกษา เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ ความผูกพันของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างทั้งในบ้านกะโพ ตากลาง และจากหมู่บ้านอื่นๆ ในจังหวัดสุรินทร์มากกว่า 200 ตัว ซึ่งจัดให้เป็นวิถีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันของคนกับช้างโดยมีทั้งบ้าน เรือนของชาวบ้านหรือที่เรียกว่าควานช้าง และมีที่อยู่ของช้างอยู่ทั่วบริเวณ นั่นจึงทำให้สุรินทร์เป็นหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติ และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมชมและตักบาตรสร้างบุญเข้าพรรษา ในงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2558 ในวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2558 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมืองเมือง จังหวัดสุรินทร์
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะมีความโดดเด่นหลากหลาย ในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 ชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรอลังการ จาก 12 คุ้มวัดชื่อดังในจังหวัด เช่น วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ, วัดศาลาลอย พระอารามหลวง, วัดกลางสุรินทร์ ฯลฯ ชมขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุรินทร์จากนักแสดงนับร้อยชีวิตพร้อมขบวนแห่ช้างที่ยิ่งใหญ่ 87 เชือก ไม่ว่าจะเป็นขบวนช้างประดับสวยงาม ขบวนช้างเทิดพระเกียรติ ขบวนช้างพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นต้น และพลาดไม่ได้กับไฮไลท์งานบุญใหญ่
ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตแก่นักท่องเที่ยวให้ได้ร่วมใส่บาตรกันทุกคน
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง อำเภอเมือง เรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีผ้าไหมจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ และตื่นตาไปกับศิลปะการถักทอเส้นไหมอันสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณ จำนวน 1,416 ตะกอ
สัมผัสช้างแบบถึงตัวที่ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง อำเภอท่าตูม เรียนรู้วิถีชีวิตชาวกวยหรือกูยความสัมผัสความผูกพันระหว่างคนกับช้างที่เลี้ยงช้างเป็นเสมือนดั่งสมาชิกในครอบครัวมาก กว่าการเลี้ยงมุ่งเน้นการเลี้ยงช้างไปเพื่อการงานหรือธุรกิจ
แวะปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ ชมภาพสลักนางอัปสราหินทรายที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกมากมาย
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานสุรินทร์ โทรศัพท์ 0 4451 4447-8 หรือ Call Center 1672 และ www.tourismthailand.org







