TSR

TSR

เจ้าตลาดเครื่องกรองน้ำ โอกาสเติบโตสูง

ประเด็น

จากการเข้าพบผู้บริหารเมื่อวันที่ 7 ก.ค. มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

- รุกช่องทางจำหน่ายใหม่ TSR ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำแบบขายตรง ตราสินค้า “Safe” ปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับสองของประเทศ (อันดับ 1 Amway) และขายในลักษณะผ่อนชำระกับบริษัทเป็นสัดส่วน 90% ปัจจุบันเน้นขายในกรุงเทพฯเป็นสัดส่วน 90% ด้วยช่องทางขายตรงของตนเอง ในปี 58 มีแผนจะรุกขยายสาขาในต่างจังหวัดกว่า 20 สาขา เข้าวางขายในโมเดิร์นเทรด ขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ และ ทางเว็บไซต์ของตนเอง ต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1.5 พันล้านบาท (คิดเป็นการเพิ่มขึ้นราว 36% YoY) เพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดจาก 10% เป็น 20%

- วิกฤตภัยแล้งเป็นโอกาส TSR ได้สั่งประกอบเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่ (ใช้ระบบ Reverse osmosis) ที่สามารถกรองน้ำกร่อยเป็นน้ำจืดได้กว่า 5 หมื่นเครื่อง หลังเล็งเห็นภัยแล้งในปัจจุบัน โดยระดับน้ำในเขื่อนได้ลดลงมามากแล้วหากปริมาณน้ำฝนยังคงน้อยจะเสี่ยงที่น้ำทะเลจะหนุนจนน้ำประปามีรสชาติเค็มได้ จึงเป็นโอกาสการขายสินค้าของบริษัท เชื่อว่าเครื่องกรองน้ำระบบ Reverse osmosis ซึ่งเป็นระบบกรองที่ดีที่สุดแต่ยังเป็นรุ่นที่ครัวเรือนไทยมีใช้กันน้อย

- ซื้อกิจการเสริมทัพธุรกิจ ในช่วง 1Q58 TSR ประกาศเข้าถือหุ้น 60% ในบริษัทเฟดเดอร์ ไทย จำกัด โดยเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ เฟดเดอร์ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศสัญชาติสหรัฐเก่าแก่กว่า 119 ปี หวังนำมาขายให้แก่ฐานลูกค้าเดิมของ TSR หลังเริ่มทดลองขายผ่านทางโทรศัพท์ในช่วง 4Q57 (เป็นตัวแทนขายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อไดกิ้น ปัจจุบันยอดขายมีสัดส่วน 4%) แล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดี จึงสนใจทำการตลาดด้วยแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าเป็นเท่าตัว จะเริ่มขายในช่วง 3Q58 นี้ (ติดตามภาพประกอบได้ในหน้า 2)

ผลกระทบ / ความเห็น

- ตลาดมีศักยภาพสูง เราประเมินข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติว่าครัวเรือนไทย (ที่มีกว่า 20 ล้านครัวเรือน) มีแหล่งน้ำดื่มที่มาจากการกรองน้ำประปาราว 20% หรือ 4 ล้านครัวเรือนเท่านั้น โดยกว่าครึ่งหนึ่งของครัวเรือนไทยยังนิยมตู้หยอดเหรียญหรือน้ำบรรจุขวดซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าการกรองน้ำเองถึงเท่าตัว เราจึงมองว่าธุรกิจขายเครื่องกรองน้ำน่าสนใจ มอง TSR มีช่องให้เติบโตอีกมาก เพราะสินค้าของ TSR ก็เน้น คุณภาพดีราคาถูก (ถูกกว่าแอมเวย์ 3 เท่า) หวังจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่างให้หาซื้อมีเครื่องกรองน้ำสะอาดใช้

- คาดกำไรสุทธิปี 58 มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 20% YoY (หรือในกรณีดีสุดถึง 30% YoY) จากแผนขยายธุรกิจจำนวนมากข้างต้น เรามองว่าเป้ายอดขายที่ 1500 ล้านบาทถือว่าไม่ท้าทายเกินไป อีกทั้ง อัตรากำไรขั้นต้นจะเริ่มพัฒนาขึ้นเด่นหลัง 2H58 (เบื้องต้นคาดอัตรากำไรสุทธิ 8 - 10%) ซึ่งจะเริ่มบันทึกรายได้ธุรกิจขายเครื่องปรับอากาศแบรนด์ของตัวเอง หนุนให้อัตรากำไรสูงกว่าเดิม ทั้งนี้ สำหรับประเด็นหนี้เสีย จากการสอบถามยอดหนี้เสียของ TSR ในปีนี้แทบไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้เศรษฐกิจไทยมีทิศทางไม่สดใสนัก (NPL ปกติอยู่ระดับ 4%) สะท้อนลักษณะสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน

คำแนะนำ / เหตุผล

- ปัจจุบันเรายังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ทางพื้นฐานแต่มีมุมมองเป็นบวกต่อบริษัท ประเมินกรณีภัยแล้งไม่รุนแรง TSR ซึ่งสามารถขายสินค้าได้ราว 7-8 พันเครื่องต่อเดือน ก็สามารถระบายสินค้าใหม่หมดได้ภายในปี 58 นี้อยู่แล้ว

มอง TSR ถือเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ แม้ซื้อขายในอัตราส่วน Trailing PE สูงถึงราว 30 เท่า แต่หากคำนึงถึงอัตราการเติบโตจะคิดเป็นอัตรา PEG ราว 1-1.5 เท่า ไม่ได้แพงเกินไป ขณะที่เมื่อเทียบกับหุ้นค้าปลีกอื่น TSR มีโอกาสเติบโตสูงได้สวนภาวะเศรษฐกิจ โดย SINGER ที่ลักษณะธุรกิจคล้ายคลึงกัน แต่แนวโน้มยอดขายและกำไรสุทธิมีทิศทางหดตัวลงในปีนี้ พร้อมทั้งทิศทางหนี้เสียที่มากขึ้น (อิงจาก IAA consensus)