CPF - ซื้อ

ประเด็นการลงทุน

ถึงแม้ว่าเราจะทำการปรับลดผลกำไรสุทธิปี 2558 ลงจากเดิมเนื่องจากรายได้ส่งออกที่อ่อนตัวลงกว่าคาด แต่เราก็ยังคงคำแนะนำซื้อหุ้น CPF ด้วยความคาดหวังว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวจากธุรกิจต่างประเทศ ผลขาดทุนของธุรกิจกุ้งในไทยที่ลดลง และรายได้ส่งออกที่จะกลับมาฟื้นตัวเพิ่มขึ้น เราเชื่อว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่าสะท้อนปัจจัยลบสำหรับผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะออกมาแย่ไปแล้ว

ส่องกล้องไตรมาส 2/58–กำไรหลักลดลง YoY

เราคาดผลกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 ที่ 2.25 พันล้านบาท ลดลง 37% YoY และ 24% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษได้แก่ กำไรจากการเทรดดิ้งหุ้น CPALL (หลักหักภาษี) และรายการอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดผลกำไรหลักไตรมาส 2/58 ที่ 1 พันล้านบาท ลดลง 65% YoY แต่เพิ่มขึ้น 72% QoQ ผลกำไรหลักที่ลดลง YoY เนื่องจากมาร์จิ้นธุรกิจสัตว์บกในประเทศที่ลดลง ปริมาณยอดส่งออกทั้งกุ้งและไก่ที่ลดลง (ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินของประเทศผู้นำเข้าที่อ่อนตัวลงอย่างมาก) รวมถึงยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปในประเทศที่ลดลง (เนื่องจากภาวะการบริโภคในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ) และผลขาดทุนของตุรกีที่เพิ่มขึ้น ผลกำไรหลักที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด QoQ เนื่องจากเป็นช่วงไอซีซั่นของการส่งออก มาร์จิ้นของเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้น ผลขาดทุนของธุรกิจกุ้งที่ลดลง และธุรกิจในต่างประเทศยกเว้นตุรกีที่ฟื้นตัวดีขึ้น

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 2/58 ที่ 12.8% เทียบกับ 14.5% ในไตรมาส 2/57 และ 12.5% ในไตรมาส 1/58 เราคาดตุรกีมีแนวโน้มแสดงผลขาดทุนสุทธิ 200 ล้านบาทในไตรมาส 2/58 ขาดทุนเพิ่มขึ้น 233% YoY และเทียบกับผลการดำเนินงานที่คุ้มทุนในไตรมาส 1/58 เนื่องจากปริมาณยอดส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลางที่ลดลง รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ในประเทศตุรกีที่ปรับตัวลดลงอย่างมากเนื่องจากภาวะอุปทานในประเทศที่กลับมาล้นตลาดอีกครั้ง เราคาดผลขาดทุนจากการดำเนินงานของธุรกิจกุ้งในไทยที่ 600 ล้านบาทในไตรมาส 2/58 หรือคิดเป็นขาดทุนลดลง 46% YoY และ 29% QoQ

ปริมาณยอดส่งออกในไตรมาส 2/58 ที่ต่ำกว่าคาด

เนื่องจากค่าเงินเยนและค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงอย่างมากถ้าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงส่งผลให้การส่งออกจากไทย (รวมถึงการส่งออกของ CPF) ไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศในกลุ่มอียูแพงขึ้นทันที เมื่อลูกค้าจ่ายกลับมาเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณยอดส่งออกจากประเทศไทยลดลง ลูกค้าของประเทศผู้นำเข้าได้เริ่มขอต่อรองลดราคาลงในช่วงไตรมาส 2/58 ท่ามกลางภาวะการณ์ที่อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศผู้นำเข้าอ่อนค่าลง และเนื่องจากรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ลดลง 2% YoY เราคิดว่าเป้าหมายของบริษัทสำหรับอัตราการเติบโตของรายได้สำหรับทั้งปี 2558 ที่ 5-10% ดูแล้วเป็นไปได้ยากมากที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว


ไม่ได้รับผลกระทบจากกฏข้อบังคับใหม่ของการจับปลา

บริษัทชี้แจงว่าการนำเอากฎข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับการทำประมงภายใต้กฎระเบียบของการจับปลาที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้โดยอียูให้ทำการจดทะเบียนผู้ประกอบการเรือประมงทุกราย จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใดเนื่องจากบริษัทซื้อปลาหรือปลาป่น (ซึ่งเป็นวัตถุดิบของอาหารกุ้ง) โดยตรงจากโรงงานทำปลาป่นที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีแหล่งหาปลาจากเรือประมงที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิและกำไรหลักปี 2558 ลงจากเดิม

เราทำการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ลงอีก 25% (เหลือ 9.43 พันล้านบาท) และกำไรหลักปี 2558 ลงอีก 34% (เหลือ 6.32 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนปริมาณยอดส่งออกและราคาส่งออกที่ต่ำกว่าที่เคยคาดก่อนหน้า เราทำการปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดส่งออกสำหรับผลิตภัณฑ์ไก่และกุ้งในปี 2558 ลงจากเดิม 10-15% และปรับลดสมมติฐานราคาส่งออกเฉลี่ยสำหรับผลิตภัณฑ์ไก่และกุ้งในปี 2558 ลงจากเดิม 5-10% ส่งผลให้ราคาเป้าหมายซึ่งประเมินด้วยวิธี DDM ปรับลดลงอีก 14% (เหลือ 30 บาท)