ปลัดอำเภอจี้ชิงทอง เปิดปากสารภาพทำธุรกิจเจ๊ง

ปลัดอำเภอจี้ชิงทอง เปิดปากสารภาพทำธุรกิจเจ๊ง

ปลัดอำเภอจี้ชิงทอง เปิดปากสารภาพ ทำธุรกิจเจ๊ง มีหนี้สินรุงรัง นายทุนทวงเงิน จึงหลงผิด

จากกรณีที่ นายชัยสิทธิ์ กิตติพงษ์ ตำแหน่งปลัดอำเภอ(จพง.ปค.ชำนาญการ)ช่วยราชการอำเภอแม่ใจ จ.พะเยา ได้ลงมือชิงทองจากร้านทองเอเชีย ในตลาดสดพะเยาอาเขตและยิงเจ้าของร้านทองได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวเองถูกตีหัวเลือดอาบและถูกจับได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการแชร์ในไลน์และเฟชบุคกลุ่มของคนใน จ.พะเยา ว่าจริงๆแล้ว นายชัยสิทธิ์ ได้นำทองเก๊ไปขาย แต่ถูกทางร้านจับได้และได้ลงมือทำร้ายนายชัยสิทธิ์ ไม่ใช่การเข้าจี้ชิงทองตามคำกล่าวอ้างของเจ้าของร้านทองแต่อย่างใด จนสร้างความสับสนให้คนไนอำเภอเมืองพะเยาอย่างยิ่งและต่างก็วิพากษ์วิจารณ์และพาดพิงไปถึงส่วนราชการหลายๆส่วน

ล่าสุด พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว ผกก.สภ.เมืองพะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยาน และพยายามสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้งคืน อย่างตรงไปตรงมา จนผู้ถูกกล่าวหายอมรับสารภาพในช่วงเช้ามืดของวันนี้ (4 ก.ค.)และได้ตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว เพราะฉะนั้นการปล่อยข่าวว่า จะมีการช่วยเหลือกันนั้นเป็นไปไม่ได้ เป็นเพียงการแก้เกี้ยวของกลุ่มคนสนิทชิดเชื้อผู้ถูกกล่าวหามากกว่า และที่สำคัญที่สุด คดีนี้ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนสาเหตุแรงจูงใจ ในการก่อเหตุ นายชัยสิทธิ์ ให้การว่า ตนเองได้ทำธุรกิจรับจ้างไถนา ได้ลงทุนซื้อรถไถนา 3 คัน และลงทุนทำร้านอาหารบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ได้ไปกู้ยืมเงินจากบริษัทลิสซิ่งบริษัทหนึ่ง เป็นเงินหลายล้านบาท แต่ปรากฏว่า ธุรกิจที่ทำอยู่ขาดทุนหมด ทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายค่างวดเงินที่ยืมมา จึงตัดสินใจเข้าชิงทองในร้านทองเอเชีย เพราะเห็นว่า มีแต่ผู้หญิง เพื่อนำไปขายแล้วเอาเงินไปปลดหนี้ หรือชำระหนี้บางส่วน แต่ทำไม่สำเร็จและถูกจับกุมได้ในที่สุด

ด้านญาติๆของ นางนุชรี สุทธิกุลบุตร ที่ถูกยิงจากการเข้าไปต่อสู้กับคนร้าย กล่าวว่า อาการของนางนุชรี ดีขึ้นมากแล้ว หลังจากผ่าเอาหัวกระสุนออกจากสะโพก แต่ยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่ คาดว่า อีกไม่นานก็จะหายเป็นปกติ