นายกมาเลย์จ่อโดนสอบพัวพันกองทุนฉาว

นายกมาเลย์จ่อโดนสอบพัวพันกองทุนฉาว

คณะกรรมาธิการต่อต้านการทุจริตมาเลเซียเตรียมตรวจสอบนายกรัฐมนตรีรับเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์จากกองทุนรัฐบาลที่กำลังมีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่น

โฆษกคณะกรรมาธิการต่อต้านการทุจริตมาเลเซีย แถลงเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ว่า คณะกรรมาธิการจะตรวจสอบรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลของสหรัฐ ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีเงินเข้าบัญชีส่วนตัวจากบริษัทกองทุนรัฐบาล “วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนท์ เบอร์ฮัด” หรือ “วันเอ็มดีบี” เป็นมูลค่าสูงถึง 681 ล้านดอลลาร์ หรือราว 23,085 ล้านบาท โดยการทำธุรกรรมเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งเป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป และหากพบว่ามีการทุจริตจริง จะดำเนินการสอบสวนทันที


ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ารายงานนี้เป็นความจริงทั้งหมดจนกว่าจะมีการยืนยันอย่างชัดเจนจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้อาจมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง
ด้านวันเอ็มดีบีออกแถลงการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกันโดยยืนยันว่า ไม่เคยทำธุรกรรมร่วมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และตำหนิรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่รัฐบาลมาเลเซียและบริษัท


ส่วนฝ่ายค้านมาเลเซียเรียกร้องให้นายนาจิบระงับภารกิจทั้งหมดจนกว่าการสอบสวนโดยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินจะเสร็จสิ้น ซึ่งหากรายงานนี้เป็นความจริง จะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเผชิญข้อกล่าวหาทุจริตอย่างเปิดเผย


นอกจากนี้ กระแสข่าวดังกล่าวยังส่งผลให้ค่าเงินริงกิตเทียบกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ร่วงต่ำสุดในรอบ 10 ปี มาอยู่ที่ 3.7840 ริงกิตต่อดอลลาร์


ทั้งนี้ นายนาจิบ วัย 61 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียมาตั้งแต่ปี 2552 กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากหลายฝ่าย ซึ่งต้องการทราบความโปร่งใสของการดำเนินงานภายในวันเอ็มดีบี ที่มีกระแสข่าวลือว่าประสบปัญหาขาดทุนสะสมสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 372,900 ล้านบาท เนื่องจากมีการยักยอกเงินจำนวนมหาศาล และการเสียชีวิตปริศนาของหญิงชาวมองโกเลียเมื่อปี 2549 หลังเธอมีส่วนในการเจรจาจัดซื้อเรือดำน้ำที่มีการเปิดโปงในเวลาต่อมาว่าเต็มไปด้วยการทุจริต