Market Focus

Market Focus

คาด SET ทรงตัวในกรอบ 1485-1500 จุด

SET View

- แนวโน้ม กลุ่มธนาคารยังคงกดดัน SET ต่อเนื่องวานนี้ โดยกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงแรงกว่า 3.1% เป็นที่น่าสังเกตว่ามูลค่าการซื้อขายของ SET เพิ่มเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท หนุนด้วยมูลค่าการซื้อขายของธนาคาร 3 แห่ง (KBANK, SCB, KTB) รวมกัน 1.2 หมื่นล้านบาท วันนี้ ประเมิน SET ทรงตัว/พักตัวเล็กน้อย แนวรับ 1485 จุดและแนวต้าน 1500 จุด เชื่อว่า แรงขายกลุ่มธนาคารน่าจะเบาบางลงในระยะสั้นและไม่กดดัน SET มากในวันนี้

ข่าว/ดัชนีเศรษฐกิจ

• สหรัฐฯรายงานดัชนีตลาดแรงงานที่สำคัญคือ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ออกมาแย่กว่าคาด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 2.23 แสนตำแหน่ง ขณะที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 2.33 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน ลดลงเหลือ 5.3% ดีกว่าคาดที่ 5.4% ปัจจัยสำคัญอีกประการคือ ค่าแรง ซึ่งมีผลต่อเงินเฟ้อในอนาคต เพิ่มขึ้นเพียง 2% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.3% โดยรวม ส่งผลให้มุมมองตลาดต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ผ่อนคลายระยะสั้น กล่าวคือ เทรดเดอร์ในตลาดฟิวเจอร์สอ้างอิงบนดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ คาดการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเกิดขึ้นเดือน ม.ค.59

• วันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯหยุดทำการ (ชดเชยวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.ค.)


- กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยสะสมหุ้นที่คาดว่ากำไร 2Q58 จะเติบโตโดดเด่น

  Top Daily Pick : ADVANC (มูลค่าเหมาะสม 288 บาท) ปันผลสูง 5.7%, ความคืบหน้าการประมูล 4G ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่กลาง ก.ค. และ SAPPE (มูลค่าเหมาะสม 36.90 บาท) ไตรมาส 2 เป็น High season ของธุรกิจเครื่องดื่ม, คาดกำไรสุทธิ 2Q58 โตสูงถึง 20%YoY

  Technical Pick : THAI WIIK SPPT UNIQ AAV (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)

  Theme Plays : การประมูล 4G เริ่มนับหนึ่งในเดือนนี้ (ADVANC, INTUCH)/ หุ้นอสังหาฯที่ซื้อขายด้วย P/E ratio ค่อนข้างต่ำ (SPALI, QH) / หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)

Strategy Talk

- ดัชนีเศรษฐกิจไทย เดือน พ.ค.ยังคงอ่อนแอ

ดัชนีชี้นำหลักของเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค. 57 ออกมาน่าผิดหวังต่อเนื่องจากเดือน เม.ย. โดย ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ลดลงทั้ง 0.5% MoM และ 0.4% YoY มูลค่าการส่งออก (ในรูปสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ) หดตัวแรง 5.5% YoY (ลดลงกระจายในหลายสินค้าหลัก) ส่งผลต่อเนื่องให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ติดลบ 7.6% YoY มีเพียงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่องอีก 38.2% YoY (ในเดือน พ.ค.56 มีเหตุการณ์รัฐประหาร) อย่างไรก็ดี แม้ภาคการท่องเที่ยวเติบโตโดดเด่น แต่ปัจจัยเดียวไม่มีน้ำหนักมากพอจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ ในภาวะที่การส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนยังไม่ฟื้น

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ออกมาอ่อนแอและค่อนข้างแย่กว่าที่นักลงทุนเคยคาดหวังในช่วงก่อนหน้านี้ว่าจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วในปีนี้หลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้เกิด Sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศโดยตรงทั้งกลุ่มธนาคาร และ กลุ่มค้าปลีก ซึ่งให้ผลตอบแทนของหุ้นกลุ่มดังกล่าวลดลงตั้งแต่ต้นปี -19% และ -1.4% ตามลำดับ อ่อนแอกว่า SET ซึ่งปรับตัวลดลงเพียง 0.4% ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้เรามองว่าการที่ผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์หลายๆแห่งออกมาปรับเป้าหมายการเติบโตลงค่อนข้างมากเพื่อสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หนี้เสีย (NPL) ในระบบที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยขาลงกดดันประสิทธิภาพการทำกำไร จะยังกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารต่อไปอีกระยะต่อไป

เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นของธนาคารหลายๆแห่งปรับลงมามาก จนใกล้กับมูลค่าเหมาะสมที่ทางฝ่ายวิจัยภัทร ประเมินไว้ ทั้ง KBANK (มูลค่าเหมาะสม 179 บาท), SCB (มูลค่าเหมาะสม 147 บาท) โดยเฉพาะ BBL (มูลค่าเหมาะสม 208 บาท) ปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV ratio ต่ำเพียง 0.96 เท่า ถือว่า ใกล้เคียงกับ P/BV ที่ต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบ 5 ปีที่ 0.87 เท่า ดังนั้น หากไม่มีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2557 ลงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต เราเชื่อว่า แรงเทขายหุ้นจะเริ่มทุเลาลงเพราะรับกระแสเชิงลบไปมากพอสมควรแล้ว